รัฐบาล ลุยปราบปรามฟอกเงิน พร้อมจ่ายชดเชยเหยื่อค้ามนุษย์ ตามกม.ใหม่

รองโฆษกรัฐบาล เผยพร้อมลุยปราบปรามฟอกเงิน จ่ายชดเชยเหยื่อค้ามนุษย์ กม.ใหม่บังคับใช้ปลายปี สอดรับมาตรฐานสากล

31 ต.ค.2565-น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งมั่นผลักดันการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ เกิดความเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแผนปฏิรูปประเทศ และมาตรฐานสากล เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน หนึ่งในกฎหมายสำคัญที่ผ่านกระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมและประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา (มีผลใช้บังคับใช้จากนี้ 60 วัน) คือ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2565

สาระประกอบด้วย 1.แก้ไขเพิ่มเติมการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน ให้ครอบคลุมถึงความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ เสรีภาพ อนามัย หรือชื่อเสียง เพิ่มเติมไปจากความเสียหายต่อทรัพย์สิน โดยให้ผู้เสียหายมี สิทธิได้รับการชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เช่น กรณี การช่วยให้เหยื่อจากการค้ามนุษย์ได้รับการชดใช้ความเสียหายจากทรัพย์สินของผู้กระทำความผิด

2.กำหนดการคุ้มครองสิทธิผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด โดยให้ผู้มีส่วนได้เสียโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน หรือได้มาซึ่งส่วนได้เสียโดยสุจริตและตามสมควรในทางศีลธรรมอันดี หรือ ในทางกุศลสาธารณะ สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอคุ้มครองสิทธิของตนได้ เช่น กรณี ผู้ทำสัญญาจะซื้อทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดโดยสุจริตและได้ชำระเงินมัดจำให้ผู้จะขายไว้แล้วต่อมาทรัพย์สินดังกล่าวได้ถูกพนักงานอัยการร้องขอให้ตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งผู้มีส่วนได้เสียดังกล่าวสามารถร้องขอให้ศาลมี คำสั่งคุ้มครองสิทธิ์ให้ตนได้

3.กำหนดกระบวนการดำเนินการบังคับคดีกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดซึ่งถูกรวมเข้ากับทรัพย์สินอื่น โดยให้ศาลมีอานาจสั่งให้สำนักงาน ปปง. นำทรัพย์สินที่รวมเข้ากันทั้งหมดนั้นออกขายทอดตลาด และนำเงินที่ขายได้ส่งให้ตกเป็นของแผ่นดินหรือนำไปชดใช้ให้ผู้เสียหายตามสัดส่วนมูลค่าทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อย่างไรก็ดี หากเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวไม่ต้องการให้ทรัพย์สินนั้นถูกขายทอดตลาดก็สามารถนำเงินตามสัดส่วนมูลค่าทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามจำนวนที่ศาลกำหนดส่งให้สำนักงานแทนการนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาดได้

“การแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าว สอดคล้องกับข้อเสนอจากรายงานการค้ามนุษย์หรือ Trafficking in Persons (TIP Report) และ เป็นตามมาตรฐานสากล ด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (Anti-Money Laundering and Combating the Financing of Terrorism: AML/CFT) ซึ่งขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในขั้นการออกกฎหมายลูก เพื่อกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการปฏิบัติ เพื่ออำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน และจัดการผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นไปอีก และแน่นอนจะส่งผลถึงภาพลักษณ์ประเทศในเรื่องความจริงจังในการยกระดับมาตรฐานการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและการฟอกเงินจากการกระทำทุจริตในลักษณะต่างๆ”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘แพทองธาร’ ยันพรรคร่วมไร้ปัญหา หลังภาพ 'ทักษิณ-อนุทิน' ออกรอบตีกอล์ฟด้วยกัน

ความจริงแล้วตนและนายอนุทิน ก็คุยกันอยู่แล้ว ถึงจะมีปัญหาอะไรก็คุยกันเคลียร์กันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆถึงเวลาถ้ามีอะไรก็คุย

อย่างหล่อ! ‘อนุทิน’ ปัดตีกอล์ฟเคลียร์ขัดแย้ง ‘ทักษิณ’ ยันการกระทำสำคัญกว่าคำพูด

‘อนุทิน’  ปัดตีกอล์ฟ ‘ทักษิณ’ เคลียร์ปมขัดแย้ง ยัน ‘การกระทำสำคัญ กว่าคำพูด’  ย้ำอีแอบ ไม่ได้หมายถึงตัวเอง - ภูมิใจไทยชัดเจน เพราะข้อเท็จจริงเข้าประชุมครม. 

การเมืองมกรา’68 พรรคร่วมร้อนรุ่มแตกหัก ‘ทักษิณ’ หนาวสะท้านชั้น 14

ทักษิณขยี้หนัก โชว์ภาพตีกอล์ฟขนาบข้างทุนผูกขาด ส่อสื่อสัญญาณรุก “พีระพันธุ์-รวมไทยสร้างชาติ” คาดชะตากรรมไม่แตกต่าง “ประวิตร-พปชร.” ประเมินปี 68 ปมชั้น 14 ทำการเมืองร้อนแรง

สัญญาณชัด! ‘เทพไท’ ฟันฉับความขัดแย้งในรัฐบาล เกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วแน่นอน

เป็นเรื่องปกติที่พรรคการเมือง ซึ่งมีจุดยืนและอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน แต่กระโดดข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาลด้วยกัน

นักเขียนค่ายผู้จัดการ มองทางเลือก ‘ทักษิณ’ ยุบสภาล้างไพ่ใหม่ เหตุมั่นใจกระแส ’อิ๊งค์-ตัวเอง’

ทักษิณโชว์ร่วมก๊วนกอล์ฟอนุทิน โดยมีเจ้าสัวพลังงานร่วมด้วย โดยสื่อบอกว่าสยบรอยร้าว2พรรค ซึ่งจริงๆแม้ 2 พรรคจะขบเหลี่ยมทิ่มแทงกันบ้าง ก็ไม่ใช่เป้าหมายที่ทักษิณขู่ฟอด

‘แม้ว’ ไล่ทุบ- ‘ภูมิใจไทย’ ไม่หมู ‘แดง-น้ำเงิน’ ทนอยู่แบบตบจูบ

นาทีนี้ศึกฝ่ายค้าน-รัฐบาลยังไม่เดือดเท่ากับศึกรัฐบาลด้วยกันเอง แรงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการขบเหลี่ยมของพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2