ตำรวจทางหลวงขอนแก่นรวบหนุ่มกาฬสินธุ์ ลักลอบนำยาบ้ามาขายที่ขอนแก่น ได้พร้อมของกลางยาบ้า720,000 เม็ดสารภาพสิ้นรับจ้างขนมาจากนครพนมค่าจ้าง 20,000 บาท แต่ได้รับเฉพาะค่าน้ำมันบางส่วน ก่อนมาถูกตำรวจสกัดจับกุมดังกล่าว
23 ต.ค.2565 เมื่อเวลา 05.30 น. พ.ต.อ.อนุรัตน์ ฉิมทิม ผกก.4 บก.ทล. พร้อมด้วย พ.ต.ท.บดินทร์ ชูเฉลิม สว.สทล.2 กก.4 บก.ทล.(ตำรวจทางหลวงขอนแก่น) ,ร.ต.ต.มานัตร์ เจริญ ,ร.ต.ต.ปรีชา มะลิมาตย์ และ ด.ต.สุสันติ วงษ์เบาะ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงประจำหน่วยบริการประชาชน อ.พล นำรถวิทยุตรวจการณ์ตำรวจทางหลวง ออกตรวจพื้นที่ในความรับผิดชอบตามปกติ ก่อนพบรถยนต์เก๋ง มิตซูบิชิ แอสทาจ สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ-9257 กาฬสินธุ์ ขับมาตามถนนเส้นทาง พล-หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ด้วยลักษณะมีพิรุธ จึงส่งสัญญาณเพื่อขอตรวจค้นแต่รถคันดังกล่าวได้เร่งความเร็วและพยายามที่จะหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามพร้อมประสานขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจทางหลวงพื้นที่ใกล้เคียงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองสองห้อง วางแผนสกัดจับกุม
จนกระทั่งมาถึง กม.ที่ 14-15 ถ.เจนจบทิศ ทางหลวงหมายเลข 2440 ต.ดงเค็ง อ.หนองสองห้อง รถคันดังกล่าวได้เสียหลักตกลงข้างทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้เข้าทำการตรวจสอบพบ นายภาดล ธรรมศิลป์ อายุ 21ปี อยู่บ้านเลขที่ 305 ม.15 ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ คนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยติดอยู่ภายในรถ ขณะที่ผู้ที่นั่งมาด้วย อาศัยจังหวะความมืดและช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้
ซึ่งจากการตรวจสอบพบยาบ้า จำนวน 122 ห่อ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 720,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถ นอกจากนี้ยังตรวจพบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครือง และบัตรประชาชนของนายนายณัฐวุฒิ บุญย่อ ตกอยู่ภายในรถ จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดมาทำการสอบสวนที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวง อ.พล พร้อมส่งตัวนายภาดล ซึ่งได้รับบาดเจ็บรักษาตัวที่ รพ.หนองสองห้อง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันอย่างเข้มงวด
พ.ต.อ.อนุรัตน์ ฉิมทิม ผกก.4 บก.ทล. กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายาบ้าดังกล่าวรับมาจาก อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยได้รับการว่าจ้างให้มาส่งให้กับลูกค้าที่ อ.หนองสองห้อง โดยรถคันดังกล่าวมีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดมาจอดทิ้งไว้ริมถนนสายธาตุพนม-มุกดาหาร ก่อนที่ผู้ต้องหาจะมาทำหน้าที่ขับขี่ตามคำสั่งโดยได้รับค่าจ้าง20,000 บาท โดยรับค่าจ้างมาแล้ว5,000 บาท จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว
“เจ้าหน้าที่ยังคงไม่ปักใจเชื่อในการให้การในเบื้องต้น ขณะที่ผู้ต้องหาที่หลบหนีไปนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แกะรอยคนร้ายและเร่งประสานการจับกุมเป็นการเร่งด่วน ขณะที่มาตรการกวดขันและปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดในทุกรูปแบบเป็นนโยบายที่สำคัญที่รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งกองบังคับการตำรวจทางหลวงได้กำชัยและเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทุกพื้นที่สืบสวนจับกุมและประสานข้อมูลการข่าวกับหน่วยงานต่างๆเพื่อนำไปสู่การจับกุมคนร้ายอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามขณะนี้แม้ผู้ต้องหาจะอยู่ในการดูแลของ รพ.ฯ ซึ่งเมื่อแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ก็จะทำการควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองสองห้อง เพื่อดำเนินคดีในข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท1 ยาบ้าไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฏหมาย ต่อไป”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผบ.ตร. สั่งสอบตำรวจพื้นที่ปล่อยปละละเลยหรือไม่ เหตุระเบิดอุ้มผาง
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีเหตุระเบิดภายในงานกาชาด อะเมซิ่งแผ่นดินดอยลอยฟ้า อ.อุ้มผาง จ.ตาก ประจำปี 2567 นั้น ได้รับรายงานจาก สภ.อุ้มผาง จ.ตาก
เปิดพฤติการณ์สังหารโหด 'สจ.โต้ง' ชนวนเหตุเลือกตั้ง อบจ. ศาลไม่ให้ประกัน
ที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรี พนักงานสอบสวน สภ.อ.ปราจีนบุรี ได้นำตัวนายธนศรัณย์ เตชะธนัตถโชติ อายุ 32 ปี (กอล์ฟ) มือยิง ,นายศักดิ์สิทธิ์ ชินวงษ์ อายุ 34 ปี ( ตูน ) มือยิง,
ตร. รับพิจารณาโอนคดีสังหาร 'สจ.โต้ง' ให้กองปราบ สั่งสอบตำรวจลูกสมุนผู้มีอิทธิพล
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษกตร.) เปิดเผยกรณี น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ที่
เมีย สจ.โต้ง ร้องโอนคดีให้กองปราบ ยังไม่เผาศพรอความยุติธรรม
น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน (สจ.จอย) ภรรยา สจ.โต้ง ทนายเอี้ยง” นิติศักดิ์ มีขวด และ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์อเข้ายื่นหนังสือต่อพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช
'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด
'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย
เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์ 152 ล้าน
ตำรวจภาค 2 เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดบริษัทฟอกเงิน ยึดทรัพย์คฤหาสน์-รถหรู 152 ล้านบาท