เรื่องนี้ยาว! 'ทนายตั้ม' จัดหนักลุยคดีร้านเหล้าฟ้องแร็ปเปอร์ดัง 'อิลสลิก' หมิ่นประมาท

12 ต.ค.2565 - นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ผมอยากบอกว่าร้าน Subscribe ที่เป็นร้านเหล้าชื่อดัง ที่ถูกนักกวี เอ้ย นักร้องดังวงหนึ่งดิสเครดิต จนสุดท้ายกลายเป็นมหากาพย์เหยียดวงบอดี้สแลมจนเป็นประเด็นร้อนไปหลายวันก่อน

เขาได้รับความเสียหายมากเลยนะครับ มืออาชีพที่แท้จริง ดีลงานไม่จบ มีปัญหาเทคนิค ก็ต้องเจรจากันหลังบ้าน ไม่ใช่เอาไปขึ้นเวทีร้านอื่น ไปกัดไปแซะเขา มันเข้าหมิ่นประมาท และพรบ.คอมเต็มๆ

ถามใจตัวเองก่อน ว่าจะเยอะอะไรขนาดนั้น วงดังกว่าคุณ ยิ่งใหญ่กว่าคุณ เขาก็เล่นกันได้ ไม่เคยมีปัญหา

ก่อนจะไปแต่งกลอน เช็คดวงก่อนไหม รู้สึกดวงตกรัวๆ ไม่กี่วันก่อนคนสนิทที่ไปเจรจาดีลสาวมาให้ ก็โดนตัดสินจำคุกไม่รอลงอาญา คดีธุระจัดหาสาววัยรุ่น

วันนี้พวกคุณก็โดนอีก รับรองคดีนี้อยู่ในมือผมแล้วยาวแน่นอน

วันนี้ ที่สำนักงานทนายความษิทรา ลอว์เฟิร์ม อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ถนนสาทรใต้ กรุงเทพฯ กลุ่มเจ้าของร้านซับสไคร์บ ย่านสะพานพระราม 7 หลังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ อ.เมืองฯ จ.นนทบุรี ได้ขอคำปรึกษาทางกฎหมายกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง กรณีที่นายทิฆัมพร เวชไทยสงค์ หรือ โต้ง หรือ อิล นักร้องเพลงแรปเจ้าของฉายา อิลสลิก ยกเลิกการแสดง ซึ่งทางร้านยืนยันว่าไม่ได้เป็นไปตามที่นายทิฆัมพรพูด

นายษิทรา กล่าวว่า ทางร้านประสงค์จะให้วงอิลสลิกมาแสดง จึงได้คุยกับผู้จัดการส่วนตัว เนื่องจากเวทีมีความสูงไม่เท่าที่ทางวงต้องการ จึงได้มีการเสริมเวที และจัดเตรียมอุปกรณ์ครบทุกอย่าง เมื่อถึงวันแสดงทางวงได้ส่งทีมงานมาที่ร้านตั้งแต่เวลา 13.00 น. ส่วนนักร้องนำมาตอน 15.00 น. ได้มีการทดสอบ แต่เกิดปัญหาไมค์หอน ทางวงแก้ไขไม่ได้

ทางร้านพยายามอธิบายวิธีการแก้ไข แต่ทางวงอยากจะทำเอง สุดท้ายแก้ไขไม่ได้จึงอารมณ์เสีย นักร้องนำก็กลับไป ซึ่งทางร้านไม่อยากมีปัญหาก็โพสต์ข้อความขอโทษ แต่ปรากฎว่านักร้องนำไม่จบ มีการโพสต์ข้อความในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง จึงได้ปรึกษากับตนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ตนติดภารกิจหลายอย่าง จึงได้แถลงข่าววันนี้

นายษิทรา กล่าวว่า ที่นายทิฆัมพรโพสต์ข้อความ กล่าวหาว่าทางร้านมีลำโพงพีเอแค่ 2 ตัวนั้นไม่เป็นความจริง เพราะรู้อยู่แล้วว่าลำโพงมีทั้งหมด 6 ตัว เรื่องที่งงก็คือ วงอิลสลิกเป็นวงที่ทางร้านชื่นชอบ แล้วทำไมนายทิฆัมพรถึงมาโพสต์แบบนี้ จึงขอคำปรึกษา ถามว่าอุปกรณ์ไม่ครบตรงไหน หรือว่าที่โกรธจริงๆ เพราะเรื่องอื่นกันแน่ อีกทั้งมายกเลิกอ้างว่าผิดสัญญา ไม่คืนเงินมัดจำด้วย ทำให้ทางร้านเสียหายจำนวนมาก

เมื่อสอบถามทีมงานของทางร้าน ไม่มีใครพูดจาหยาบคายตามที่นายทิฆัมพรพูด แต่เมื่อทีมงานของร้านยังเป็นเด็ก จึงเลือกที่จะโพสต์ยอมรับผิดเพราะไม่อยากมีเรื่องมีราว คิดว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่ เราเป็นเด็กผิดไว้ก่อนก็ได้ แต่อีกฝ่ายกลับไม่จบ ก็ต้องชี้แจงข้อเท็จจริง ขอถามว่าใครดูหมิ่นเหยียดหยาม อย่ามาโพสต์แบบไม่มีมูลความจริง อาจเป็นการตีกินหรือเปล่าให้ทัวร์ลงร้านนี้

ที่ผ่านมาทางร้านดูแลศิลปินอย่างดีมาตลอด อย่างวงอิลสลิก นอกจากค่าจ้าง 450,000 บาทแล้วยังต้องเตรียมโรงแรมให้ เตรียมอาหารกล่อง หรือใครต้องการอะไรก็เอามาให้หมด แม้แต่โค้กที่ทางร้านขายเป็นขวด แต่ทางวงต้องการกระป๋องก็ออกไปซื้อให้ ใจดีขนาดนี้ใครจะเรียกไอ้อี แม้แต่ถ่านที่ใส่ไมค์ยี่ห้อนี้ยังต้องซื้อที่เซเว่นฯ ดูแลให้เหมือนเทพเจ้า จะดูหมิ่นเหยียดหยามอะไร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สนธิ' ร้องเรียนสภาทนายความ สอบมรรยาท 'ทนายษิทธา-ทนายเดชา'

ที่สภาทนายความ ถ.พหลโยธิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอร์ค, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พร้อม

ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง

ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท   

ตร. เรียก 'เจ๊อ้อย' ให้ข้อมูลเพิ่ม 2 คดี 'ทนายตั้ม' วางแผนเป็นผู้จัดการมรดก-เงิน 39 ล้าน

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฉ้อโกงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย จำนวน 39 ล้านบาท ว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก สอบปากคำพยานบุคคลต่างๆไปแล้วจำนวนหลายปาก รวมถึงสืบพบพยานหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมหลายอย่าง

สาวไส้ 'ทนายตั้ม' เปลี่ยนพินัยกรรม ตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดก 'เจ๊อ้อย'

ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความกับพวก ในข้อหาฉ้อโกง