ตร.เตือนภัยมิจฉาชีพรับบริจาค เหตุกราดยิงหนองบัวลำภู เข้าข่ายต้องสงสัย 2 เพจ

10 ต.ค.2565 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (MDES) เตือนภัยมิจฉาชีพหากินบนความเศร้าโศก เปิดรับบริจาคทำบุญ เหตุกราดยิง ศูนย์เด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู และดำเนินคดีกับผู้แชร์ภาพความสูญเสีย

พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า จากกรณีเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุกราดยิงภายในศูนย์เด็กเล็ก ที่ จ.หนองบัวลำภู สร้างความสะเทือนใจต่อสังคมเป็นอย่างมาก ขณะนี้ได้มีกลุ่มมิจฉาชีพใช้โอกาสนี้ หลอกลวงประชาชน แอบอ้าง เปิดรับบริจาคทำบุญกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ซ้ำเติมประชาชนในช่วงสถานการณ์ความเศร้าโศก การสูญเสียซึ่งขณะนี้ทาง MDES ตรวจพบมีผู้โพสต์ทางโซเชียลมีเดีย จำนวน 13 เพจ ได้โพสต์หมายเลขบัญชีรับโอนร่วมทำบุญ เข้าข่ายต้องสงสัย 2 เพจ ถึงแม้แอดมินเพจได้มีการลบโพสต์ออกไปแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้ว

จึงขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวัง และตรวจสอบให้ดีก่อนว่าบุคคลหรือหน่วยงานที่เปิดรับบริจาคมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ ได้รับความเดือดร้อนจริง และเป็นคนเดียวกันกับคนที่ถูกกล่าวอ้างจริง เช่น คนร้ายมักจะเปิดรับบริจาคเป็นชื่อหน่วยงาน แต่บัญชีธนาคารที่รับบริจาคเป็นชื่อบุคคล โดยเฉพาะการขอรับบริจาคผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาของผู้รับบริจาคก่อนโอนเงินให้ความช่วยเหลือใดๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสจากความเดือดร้อนของผู้อื่น มาใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ และขอเตือนไปยังกลุ่มมิจฉาชีพที่คิดจะฉวยโอกาสจากความเดือดร้อนของผู้อื่น จะต้องถูกดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวคอมพิวเตอร์ อีกด้วย

อีกทั้งการเผยแพร่แชร์ภาพที่ไม่เหมาะสม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ทยอยลบ ถอด หรือจำกัดการมองเห็นลงบนโซเชียลมีเดียแล้ว หากมีผู้ไม่หวังดีมีความพยายามเผยแพร่ภาพที่ไม่เหมาะสม จะถูกดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีความห่วงใยปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งปัจจุบันสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมาก สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปราบปรามและหาทางป้องกันอย่างจริงจัง ซึ่งปัจจุบันศูนย์ PCT มีการเตือนภัยพี่น้องประชาชน รูปแบบกลโกงของคนร้ายรวมทั้งสิ้น 18 วิธี หากพี่น้องประชาชนพบเห็นบุคคลใด หรือเว็บไซต์ใด ที่มีพฤติกรรมแอบอ้างรับเงินบริจาค หรือน่าสงสัยว่าอาจเป็นกลุ่มมิจฉาชีพมาหลอกลวงพี่น้องประชาชน สามารถแจ้งเบาะแสไปยัง สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000 ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com และสามารถติดตามรูปแบบการประชาสัมพันธ์กลโกงได้ที่ pctpr.police.go.th

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเร่งพัฒนาแพลตฟอร์ม สกัดมิจฉาชีพโทร-ส่งข้อความหลอกลวง คาดพร้อมใช้ต้นปี 68

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน

เผยแจ้งความออนไลน์ 1 มี.ค 65 - 31 ต.ค. 67 เฉลี่ยเสียหายวันละ 7.7 ล้านบาท

'รองโฆษกรัฐบาล' เผยสถิติแจ้งความออนไลน์ ตั้งแต่ 1 มี.ค 65 – 31 ต.ค.67 มูลค่าความเสียหายรวม 7.48 หมื่นล้านบาท เฉลี่ย 77 ล้านบาทต่อวัน

'ทนายตั้ม' โผล่ฉายหนังคนละม้วน อ้างปมเงิน 39 ล้านค่าศิลปินจีน เป็นมิจฉาชีพหลอก 'เจ๊อ้อย'

ที่กองบังคับการปราบปราม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" เข้าพบพนักงานสอบสวน ที่ถูกน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เ

ตำรวจสอบสวนกลาง CIB ผสานพลัง AIS ยกระดับเดินหน้าภารกิจปกป้องประชาชน เปิดบริการ *1185# แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร กดแจ้งเบอร์โทรมิจฉาชีพได้ทันที หลังวางสาย

ตำรวจสอบสวนกลาง CIB จับมือ AIS ยกระดับการปกป้องลูกค้า และ ประชาชน จากมิจฉาชีพต่อเนื่องไปอีกขั้น เปิดตัวบริการ *1185# แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร