'ปปง.' ส่งศาลตัดสินยึดทรัพย์ 'ประสิทธิ์ เจียวก๊ก' 128 ล้านบาท

ปปง.ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” กับพวกตกเป็นของแผ่นดินกว่า 127 ล้านบาท

10 พ.ย.2564 – กรณีที่คณะกรรมการธุรกรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 9/2564 เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2564 ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายนายประสิทธ์ เจียวก๊ก กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญาหรือความหรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) และความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นโดยการโฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนผ่านสื่อสาธารณะ SMS บนโทรศัพท์มือถือ และสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยเสนอรูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย ได้แก่ ลงทุนซื้อคูปองทอง ลงทุนซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยว ลงทุนธุรกิจกระเป๋าแบรนด์เนม และระบบสหกรณ์ออมทรัพย์ และอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่สูงกว่ากฎหมายกำหนด เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อเข้าร่วมลงทุนกลับไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้ และภายหลังไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งนี้ ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย. 159/2564 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก กับพวก ลงวันที่ 8 กันยายน 2564 มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ ตามมาตรา 48 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และสำนักงาน ปปง. ได้เปิดรับคำร้องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายระหว่างวันที่ 13 กันยายน – 12 ตุลาคม 2564 นั้น

สำนักงาน ปปง. ได้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 11/2564 เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2564 และคณะกรรมการมีมติให้สำนักงาน ปปง. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินที่ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย. 159/2564 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายนายประสิทธิ์กับพวก ลงวันที่ 8 กันยายน 2564 จำนวน 78 รายการ (ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง, เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร, หลักทรัพย์ในบัญชีหลักทรัพย์) รวมมูลค่าประมาณ 127,739,719.88 บาท พร้อมดอกผล คืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย แทนการขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินตามมาตรา 49 วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า สำนักงาน ปปง. จะเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีดังกล่าว รวมทั้งคดีอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตัดวงจรอาชญากรรมและตัดเส้นทางทางการเงินของผู้กระทำความผิด ให้เกิดความเข้มข้นและเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและและเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ ทั้งนี้ หากพบเห็นบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด สามารถโทรแจ้งหรือสอบถามได้ที่สายด่วน ปปง. 1710

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เด็ก ปชน.ข้องใจ ปปง.ปล่อยผีโครงการหรูริมน้ำเจ้าพระยา

'สส.นนทบุรี ปชน.' หวั่น ปปง. ตั้ง 'บริษัททรัพย์สิน' หาผลประโยชน์ เหตุใช้บริษัทเดียวจัดการทรัพย์ที่ถูกยึด ข้องใจปล่อยโครงการหรูริมน้ำเจ้าพระยา สร้างต่อทั้งที่สั่งหยุดก่อสร้างแล้ว

'แทนคุณ' พาผู้เสียหายถูกหลอกลงทุน 6 คดีพึ่ง 'วันนอร์' ช่วยบี้ ปปง.เร่งคดี

'แทนคุณ' พาผู้เสียหายถูกหลอกลงทุน 6 ดคี ร้อง 'ปธ.สภา' ช่วย จี้ ปปง.เฉลี่ยทรัพย์ที่ถูกยึดคืนให้ผู้เสียหาย มองอาจมีเทวดาในหน่วยงานรัฐทำคดีล่าช้า หลายปีไม่คืบ

ปปง.สั่งอายัดเพิ่ม 1.5 ล้านบาท 'ดิ ไอคอน' ยึดทรัพย์สินคดี 'แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์

สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 12/2567 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ที่ประชุมได้มีมติในรายคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ดังนี้

ป.ป.ง. ขู่โทษถึงคุก 'ทุนจีน' ปลดป้ายคำสั่งอายัด คฤหาสน์หรูริมเจ้าพระยา

สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ออกเอกสารข่าวถึงกรณีดังกล่าวโดยระบุว่า ตามที่คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งที่ ย. 193/2567 ลงวันที่ 18 ก.ย. 2567