เจ้าของรีสอร์ท เศร้าเพิ่งเปิดใหม่ก็ยิงกันเลย ต้องปรับห้องที่เกิดเหตุ เป็นห้องพนง. พร้อมคืนเงินลูกค้า

ตำรวจขอนแก่นคุมตัว "เสี่ยอั๋น" ฝากขังที่ศาล ส่วนภรรยายังไม่พบความผิด ขณะที่เจ้าของรีสอร์ททำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์และทั้งเปลี่ยนห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องพักพนักงานแบบถาวรแทน และทิ้งทุกอย่างที่อยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อความสบายใจของรีสอร์ทและลูกค้า

10 ก.ย.2565 - เมื่อเวลา 10.00 น. ร.ต.อ.อุทัย โตภูเขียว รองสว.(สอบสวน) สภ.ภูผาม่าน ควบคุมตัวนาย รุ่งโรจน์ เทียนย้อย หรืออั๋น อายุ 40 ปีอยู่บ้านเลขที่ 55/74 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ส่งฟ้องและฝากขังที่ศาลจังหวัดชุมแพ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ภายหลังจากเกิดเหตุคยร้ายยิงนายยุทธภัณฑ์ พ่วงนวม อายุ 27 ปี จำนวน 3 นัด ตายในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอภูผาม่าน แล้วหลบหนีไปพร้อมผู้หญิงที่มาพักกับฝ่ายคนตาย และเหตุการณ์ดังกล่าวหญิงที่หนีไปพร้อมมือปืน เป็นประจักษ์พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยาน หลักฐาน ขอศาลก็ออกหมายจับนายรุ่งโรจน์ ในข้อหา กระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาโดยไตร์ตรองไว้ก่อน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จับกุมมือปืนได้พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม.และผู้หญิงที่หลบหนีมาด้วยกัน

“จากการสอบสวนนายรุ่งโรจน์ ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นมือปืนยิงคนตายนั้น ไม่มีการเชื่อมโยงถึงฝ่ายหญิงว่ามีส่วนร่วมแต่อย่างใด โดยการกระทำทั้งหมด เกิดจากฝ่ายชายหึงหวงฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นภรรยา ที่จะทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ระยะหลังฝ่ายหญิงตีตัวออกห่างและขอหย่ากับฝ่ายสามี แต่สามีไม่ยอมเลิกและพยายามตามง้อภรรยาในลักษณะตามไปทุกที่ ที่ภรรยาไป โดยก่อนเกิดเหตุภรรยาออกจากบ้านมาหลายวัน ตัดสัญญาณจีพีเอสในรถ ติดต่อโทรศัพท์ไม่ได้ จึงตรวจเช็คการเงิน จนทราบว่าฝ่ายหญิงมีการจองห้องพักในรีสอร์ทที่อ.ภูผาม่าน จึงขับรถตามมาจากบ้านที่ จ.สมุทรสาคร โดยขับรถเบนซ์มาจอดพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาน 1 กม. จากนั้นก็ยืมรถจักรยานยนต์ของคนงานในรีสอร์ท ขับตะเวนหารีสอร์ทที่ภรรยาจองไว้ รวมถึงพยายามจองห้องพัก เพื่อจะเข้าพักในที่เดียวกับภรรยา ซึ่งสามารถจองได้ และเข้าพักได้ในเช้าวันที่ 7 ก.ย. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ภรรยาพาชายหนุ่มเข้าพัก ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน และบังเอิญได้บ้านพักเป็นหลังติดกัน พอตกกลางคืน ขณะที่ภรรยากับลังอาบน้ำที่อ่างกับชายหนุ่ม ผู้ต้องหาเดินมายิงชายหนุ่ม ตายคาอ่างอาบน้ำ แล้วบังคับเอาภรรยาหนีไปด้วยกัน”

พล.ต.ต.นพเก้า กล่าวต่ออีกว่า การสอบสวน อย่างละเอียดจึงไม่พบว่าฝ่ายภรรยาหรือฝ่ายหญิงที่พาชายหนุ่มมาเที่ยว มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุของผู้ต้องหาแต่อย่างใด จึงไม่มีการแจ้งข้อหา จึงเป็นเพียงการสอบสวนในฐานะพยาน แต่ทั้งนี้หากพบความผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถแจ้งข้อหากับฝ่ายหญิงได้เช่นกัน และขณะนี้คนร้ายที่ทำผิดในเหตุการณ์ยิงคนตายในรีสอร์ท จึงมีเพียงนาย รุ่งโรจน์ คนเดียวเท่านั้น

ขณะเดียวกันทางเจ้าของรีสอร์ทได้โพสต์อธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่จะมาพัก ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของรีสอร์ทชื่อ “ภูผาม่าน ริเวอร์ฮิลล์” โดยระบุข้อความว่า “...เรียนลูกค้าผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน จากกรณีเกิดเหตุยิงกัน ภายในที่พัก เนื่องมาจากเหตุชู้สาว บริเวณห้องพักจำนวน 1 หลัง ส่งผลให้เกิดความไม่สบายใจ และสะเทือนใจทั้งทางที่พัก ครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้เข้าพักทุกท่าน ทางที่พัก ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ห้องที่เกิดเหตุ จำนวน 1 หลังนั้น ทางที่พักได้ปิดบริการ และนำเอาวัสดุอุปกรณ์ เครื่องใช้ ชุดที่นอน อ่างอาบน้ำ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทิ้งทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้ทำพิธีทางศาสนา เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย (ปัจจุบันห้องที่เกิดเหตุผู้ดูแลเป็นคนนอนเอง เมื่อคืนไปนอนมาแล้ว ไม่มีอะไรครับ ฝันดีมาก สบายใจได้ครับ)

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ความเสียหายของที่พักที่เราเปลี่ยนอ่างและชุดที่นอนและอื่น ๆ (เปิดใช้ได้แค่ 6 วัน) (เปลี่ยนทั้งหมดครับ แก้เคล็ด จากการแนะนำของเจ้าของโรงแรมใหญ่และคอนโดที่เคยเจอเรื่องราวแบบเดียวกัน) ราว 100,000 บาท และโอนเงินคืนลูกค้าที่จองไว้ทั้งแบบเหมามากกว่า 500,000 บาทแล้วครับ แต่สู้ครับ สู้ต่อไปครับ

สำหรับคุณลูกค้าที่ไม่สบายใจ ทางที่พักขอคืนมัดจำเงินห้องพัก 100% สำหรับการจองทุกรูปแบบ โดยให้ท่านติดต่อผ่านช่องทางเดิม และทางที่พักจะทยอยโอนเงินโดยเร็วที่สุด และในโอกาสนี้ ทางที่พักขอขอบพระคุณท่านที่ยังยืนยันเข้าพักในวัน เวลาเดิม ทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ ยังทักมาให้กำลังใจ และจะจองมาพักครั้งที่ 2 อีกเร็ว ๆ นี้

และขอบพระคุณลูกค้าติดตามใหม่หลายท่านมากๆ ที่ขอพักห้องที่ 3 เน้นห้อง 3 เพื่ออยากรีวิวให้ลูกค้าคนอื่นๆ สบายใจ ขอบคุณมากๆครับ ขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ทางเราขอบคุณที่เมตตา ส่งความห่วงใย และให้กำลังใจอย่างล้นหลาม สู้ต่อไปครับ ส่วนท่านที่สนใจเข้าพัก อยากหาที่พักใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติ ทางที่พักยินดีและคอยต้อนรับท่านด้วยความอบอุ่นขอขอบพระคุณมากๆครับ เราจะผ่านไปให้ได้ คุณมายิงกันใส่ที่พักเราทำไม ชีวิตต้องเดินต่อไป เพิ่งเปิดใหม่ก็ใส่เลย”

ภายหลังจากทางเพจได้โพสต์ลงในโซเชียลก็มีชาวเน็ตและลูกค้าที่เคยมาพักและต้องการจะไปพักต่างเข้ามาให้กำลังใจกับทางเจ้าของรีสอร์ทที่ต้องเจอกับเหตุการณ์ใหญ่แบบนี้ พร้อมกับแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก โดยมีชาวเน็ตหลายคนต้องการจะจองและเข้าพักเพื่อเป็นการสนับสนุนให้กำลังใจเป็นจำนวนมากอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวบพระฆ่าเพื่อนทิ้งศพในสระน้ำ อ้างทะเลาะกันก่อนใช้ช้อนกินข้าวแทงดับ

จากกรณี นายศุภพงศ์ กงแก้ว 64 ปี ได้หายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา โดมีนางอรปรียา กงแก้ว พร้อมญาติ ได้ออกตามหาตลอดทั้งวันทุกพื้นที่ ที่คิดว่าสามีเคยไปอยู่เป็นประจำ

ยกแก๊ง 5 โจ๋ยิงปืนโชว์โลกโซเชียล พบเป็นปืนบีบีกัน-แบลงค์กัน ดัดแปลงใส่กระสุนจริง

นายพิชัย วันตา นายอำเภอบ้านไผ่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรัชญามาศ ไชยสุระ ผกก.สภ.บ้านไผ่, พ.ต.ท.มนตรี สุปะตำ รอง ผกก.(สส.) สภ.บ้านไผ่พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บ้านไผ่ ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้อาวุธปื

'ส.ต.อ.' สารภาพยิงชาวเมียนมาดับคารพ. อ้างไม่พอใจรบกวนพ่อนอนป่วยเตียงข้างกัน

สารภาพแล้ว ตำรวจมือยิงแรงงานเมียนมาดับคา รพ.ขอนแก่น เหตุเพราะไม่พอใจรบกวนพ่อที่เข้ารับการรักษาเตียงข้างกัน พบประวัติป่วยซึมเศร้ารับยาจากแพทย์มากินประจำ

เพื่อนเชื่อปมชู้สาว คนร้ายบุกยิงแรงงานเมียนมา ดับคาเตียงรพ.

กรณีคนร้าย บุกยิงนาย จอ ชอ อ่อง ( Kyaw Swar Aong)  อายุ 29 ปี สัญชาติเมียนมาร์ เสียชีวิต ภายในโรงพยาบาลขอนแก่น ขณะรอเข้ารับการผ่าตัด

ลูกบ้านจัดสรร โวยเพื่อนบ้านเลี้ยงวัว ปล่อยเดินเพ่นพ่าน ผู้ใหญ่บ้านช่วยเคลียร์ปัญหา

โลกโซเชียลแห่โพสต์ภาพคนเลี้ยงวัวในหมู่บ้านจัดสรร พร้อมข้อความระบุว่า “สอบถามค่ะ หมู่บ้านจัดสรรสามารถที่จะเอาวัวมาเลี้ยงได้ด้วยหรอ

ด.ญ.อายุ 12 ถูกน้าเขยข่มขืนหลายครั้ง ขู่ฆ่าห้ามบอกใคร ย่าวอนตร.เร่งจับ คดีไม่คืบ

จากกรณีนายเอ(นามสมมุติ) อายุ 45 ปี ข้าราชการครูที่ จ.จันทบุรี ร้องเรียนขอความช่วยเหลือสื่อมวลชน ให้ตรวจสอบความคืบหน้ากรณีที่ นางดำ (นามสมมุติ) อายุ 67 ปี มารดาและเป็นย่าของด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6