อัยการสูงสุดส่งผู้ร้ายข้ามเเดนรายสำคัญ คดีทุจริตจ่ายเงินสินบนส.ว.ให้สหรัฐอเมริกา

อัยการสูงสุดส่งผู้ร้ายข้ามเเดนรายสำคัญคดีทุจริตจ่ายเงินสินบนส.ว.ให้แก่สหรัฐอเมริกา เพื่อให้ออกกฎหมายเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของตน เป็นนักธุรกิจชาวสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์

2 กันายน 2565 - นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายกุลชัย ทองลงยา พนักงานอัยการเจ้าของสำนวน ได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนนักธุรกิจชาวสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ (Republic of the Marshall Islands) ให้แก่สหรัฐอเมริกาในข้อหาร่วมกันทุจริตให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐในต่างประเทศ และร่วมกันฟอกเงิน

โดยเมื่อวันที่ 1 ก.ย.65 เวลา 21.30 น. ทางการไทยได้ส่งมอบตัวนายแครี่ ยาน (Cary YAN) และนางสาวจีน่า ซู (Gina ZHOU) นักธุรกิจชาวสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ให้แก่ผู้แทนผู้ประสานงานกลางของสหรัฐอเมริกาและเจ้าหน้าที่ยูเอส มาแชล (US Marshal) ที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเดินทางกลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐอเมริกาแล้ว

คดีนี้อัยการสูงสุด ผู้ประสานงานกลางสหรัฐอเมริกามีคำร้องขอให้ผู้ประสานงานกลางของไทยส่งผู้ร้ายข้ามแดนนายแครี่ ยาน และนางสาวจีน่า ซู ให้แก่ทางการสหรัฐอเมริกาโดยผู้ต้องหาทั้งสองถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันทุจริตให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐในต่างประเทศ และร่วมกันฟอกเงิน ตามกฎหมายอาญาของสหรัฐอเมริกา โดยพฤติการณ์การกระทำผิดของผู้ต้องหาทั้งสองคนคือ มีการจ่ายสินบนให้สมาชิกวุฒิสภาของประเทศหนึ่งในมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อให้ออกกฎหมายเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของตน เหตุเกิดต่อเนื่องระหว่างสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลและนครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ทางการสหรัฐอเมริกาได้ออกหมายจับบุคคลทั้งสองแล้ว และบุคคลทั้งสองได้หลบหนีมายังประเทศไทย

อัยการสูงสุด ผู้ประสานงานกลางตาม พรบ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551พิจารณาคำร้องขอของสหรัฐอเมริกาแล้วเห็นว่า กรณีเข้าหลักเกณฑ์การส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามกฎหมายไทยและสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2526 จึงสั่งการให้พนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศยื่นคำร้องขอออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง ต่อมาวันที่ 16 พ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมบุคคลทั้งสองได้และนำตัวส่งพนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ พนักงานอัยการ ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลขอให้ส่งตัวบุคคลทั้งสองเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ผู้ต้องหาทั้งสองต่อสู้คดีในประเด็นสำคัญว่า การกระทำของผู้ต้องหาเกิดขึ้นในต่างประเทศไม่เป็นความผิดตามกฎหมายไทย จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ความผิดสองรัฐที่จะส่งข้ามแดนได้ พนักงานอัยการได้เสนอพยานหลักฐานและข้อกฎหมายหักล้างตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 176 ซึ่งบัญญัติขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับหลักการตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตว่า การให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศก็เป็นความผิดตามกฎหมายไทย จนกระทั่งวันที่ 30 มิ.ย.65 ศาลอาญาได้มีคำสั่งถึงที่สุดให้ส่งตัวบุคคลทั้งสองเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐอเมริกา

การส่งผู้ร้ายข้ามแดนคดีนี้อยู่ในความสนใจของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นคดีแรกของสหรัฐอเมริกาและไทยที่มีการพิจารณาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนในข้อหาทุจริตให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศในดินแดนต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามหลักการและเจตนารมณ์ของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003(United Nations Convention against Corruption 2003 (UNCAC)) ที่ทั้งไทยและสหรัฐอเมริกาต่างก็เป็นรัฐภาคี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทักษิณ' หลุดปาก 'ยิ่งลักษณ์' จะกลับบ้าน แสดงถึงอาการร้อนรนในสถานการณ์ 22 พ.ย.

'จตุพร' แทงสวน อสส.ส่งความเห็นหลังปล่อยอำนาจหลุดมือ เชื่อ 22 พ.ย. ศาลรธน. มติเอกฉันท์ รับคำร้อง โต้สีอื่นไม่เคยตกใส่เสื้อแดง มีแต่สีคนตระบัดสัตย์ไม่ซื่อตรงปชช. ชี้ 'ทักษิณ' หลุดปาก 'ยิ่งลักษณ์' จะกลับบ้าน แสดงถึงอาการร้อนรนในสถานการณ์ เตือนหลายฝ่ายทนไม่ไหว คดีทุจริตไม่ติดคุกสักวัน หวั่นเหตุการณ์ซ้ำรอย

เข้าทาง! ผู้ร้องคดี 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง ฟันธงศาลรธน. รับคำร้องแน่นอน

จากกรณีที่มีข่าวว่านายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด ได้ส่งหนังสือความเห็นถึงศาลรธน.ในคำร้องคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ร้องว่า นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่หนึ่งและพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่สอง

ตามคาด! อสส.ไม่รับดำเนินการคดี 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง

อัยการสูงสุดไม่รับดำเนินการคดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเเล้วพร้อมผลการสอบถ้อ

'อสส.' ตอบความคืบหน้าคดี ทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างปกครองฯ ต่อศาลรธน.เเล้ว

รายงานข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด ความคืบหน้ากรณี เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีเผยแพร่เอกสาร การพิจารณาคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา