หลานอดีตรัฐมนตรี เข้าพบตำรวจแล้ว ลั่นมีหลักฐานถูกดาราสาวแบล็คเมล์

29 ส.ค.2565 - จากกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พา น.ส.แนน (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ดาราสาวผู้เสียหายที่ถูกหลานชายอดีตรัฐมนตรี ข่มขืนกระทำชำเรา ภายในรีสอร์ตย่านนาคนิวาส เข้าติดตามคดีกับตำรวจ สน.โชคชัย เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา จนกลายเป็นประเด็นสังคมที่หลายคนเฝ้าติดตาม

ล่าสุด ที่ สน.โชคชัย นายอภิดิศร์ หรือเอ็ม ผู้ถูกกล่าวหาในคดีข่มขืนกระทำชำเราดารานักแสดงสาว อายุ 22 ปี ที่วิลล่าแห่งหนึ่งในซอยนาคนิวาศ 2 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.หญิง ชิดชนก แฟงทอง รอง สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย ตามหมายเรียก โดยก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน นายอภิดิศร์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนมีหลักฐานชัดเจนว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการแบล็คเมล์ ขณะนี้ข่าวที่ออกไปทำวงศ์ตระกูลขอบตนเสียหายมาก ตาของตนเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจริงเมื่อ 40-50 ปีแล้ว และเสียไปถึง 10 ปีแล้ว การนำตาของตนมาเกี่ยวข้องนั้นรู้สึกเสียใจมาก เพราะคดีมีผู้เกี่ยวข้องเพียงตนคนเดียว ไม่อยากให้นำครอบครัวของตนมาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ตนอยากบอกว่าตนบริสุทธิ์ใจ ที่มาวันนี้ก็เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ตามที่ผู้กล่าวหาบอกว่าตนมีเส้นสายกับตำรวจ ตนไม่รู้จักใครแต่อย่างใด ตนเพิ่งกลับจากไปเที่ยวที่หัวหิน รู้สึกตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายอภิดิศร์ กล่าวอีกว่า หมายเรียกนั้นส่งไปที่บ้านตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ระบุให้ตนเข้าให้ปากคำวันนี้ (29 สิงหาคม) ตนจึงมาเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ การที่ผู้กล่าวหาไปออกรายการกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นั้น ต้องขอขอบคุณนายษิทราที่ให้ความร่วมมือ เข้าใจว่าเป็นทนายของประชาชน หากตนเป็นทนาย และได้ยินจากฝ่ายเดียวก็คงรับไม่ได้หากมีผู้ชายไปข่มขืนผู้หญิง เพราะต้องเป็นสุภาพบุรุษ หลังเข้าพบพนักงานสอบสวนตนจะชี้แจงอีกครั้ง เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อรูปคดี แต่ตนบริสุทธิ์ใจ ไม่ผิด มีหลักฐานชัดเจน ซึ่งนายษิทราน่าจะอบู่ฝ่ายที่ผิด เพราะไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร แต่จะไปโทษไม่ได้ ซึ่งหลักฐานที่นำมานั้นมีความรัดกุม สามารถชี้แจงได้ว่าไม่ผิดตามที่ถูกกล่าวหา

โดยในวันเกิดเหตุ ตนได้ไปกับผู้ถูกกล่าวหาจริง เพราะผู้กล่าวหาได้ติดต่อมาหาตนว่าทะเลาะกับพี่สาว และอยู่ที่สยามสแควร์คนเดียว กระทั่งช่วงกลางคืนได้บอกตนมาว่าไม่กลับห้อง ให้แนะนำโรงแรมให้ ตนจึงแนะนำโรงแรมแถวสุขุมวิทไปให้ แต่อีกฝ่ายบอกว่ามีราคาแพงเกินไป ซึ่งตนมีหลักฐานเป็นแชท

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ไปส่งเพียงอย่างเดียว แต่ไปที่โรงแรมโดยนำเหล้าโซจูไปด้วย และไม่ได้เป็นการไปพูดคุยเรื่องงาน แต่เรื่องที่เกิดในห้องนั้นตนมีหลักฐานทั้งหมด ว่าเรื่องที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นความจริง ส่วนตัวรู้จักกับผู้ถูกกล่าวหา เพราะเคยติดต่อไปให้รีวิวสินค้า โดยรู้จักกันก่อนหน้าวันเกิดเหตุไม่ถึงเดือน ไม่เคยมีการคบหากันแต่อย่างใด โดยตนรู้สึกเสียใจกับคำพูดของนายษิทรา แต่เข้าใจว่าต้องการปกป้องผู้หญิง เพราะเชื่อว่าถูกรังแก ส่วนเรื่องเล่นการเมืองนั้น ผู้ที่โทรไปหาผู้กล่าวหาเป็นผู้ใหญ่ที่ตนนับถือ ซึ่งโทรไปโดยที่ยังไม่ได้พูดคุยกับตน โดยคลิปเสียงที่ปรากฎออกมาเป็นคลิปที่ถูกตัดมา สิ่งที่กังวลคือชื่อของตนออกไปในสื่อสังคมออนไลน์เยอะ และบางคนอาจไม่เข้าใจ ไม่ได้ฟังจากตน ขอให้ผู้สื่อข่าวเป็นกระบอกเสียงให้ เพราะตนเป็นชายธรรมดาคนหนึ่งที่ถูกรังแก

ขณะเดียวกัน ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด- ทนายตั้ม พาผู้เสียหาย ร้องขอโอนคดีการล่วงละเมิดทางเพศดาราสาว จากสน.โชคชัย มาสอบสวนต่อที่กองปราบปรา หลังไม่เชื่อมั่นการทำงาน พร้อมยืนยันมีหลักฐานก่อเหตุชัดเจน ไม่ได้แบล็คเมล์ผู้ต้องหา หลังจากไม่เชื่อมั่นการทำคดีของตำรวจสน.โชคชัย กรณีที่นำหลักฐานสำคัญที่เป็นแชทไลน์ของผู้เสียหายและผู้ต้องหา ออกจากสำนวน และการสอบสวนผู้เสียหายที่ไม่ละเอียดรอบคอบ

ผู้เสียหาย ยืนยันว่า มีหลักฐานที่ผู้ต้องหาก่อเหตุจริง และที่มาดำเนินคดีไม่ได้แบล็กเมล์ และถามผู้ต้องหาว่าหากไม่ได้ทำผิดจริง ทำไมถึงต้องพยายามโทรศัพท์มาเสนอเงินเพิ่มเพื่อให้ยุติการแจ้งความ ส่วนวันที่เกิดเหตุยอมรับว่ามีการทะเลาะกับพี่สาวก่อนจริง แต่เป็นการทะเลาะเรื่องงานที่รับเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าตอนที่รับงานนี้ไม่ได้ขาดสติ ส่วนเรื่องการติดต่อโรงแรมที่พักร่วมกับผู้ต้องหา ยังไม่ขอพูดถึงขอให้เป็นเรื่องในสำนวน

ด้านพี่สาวของผู้เสียหาย ยืนยันว่าผู้ต้องหาพยายามติดต่อให้รับงานแสดงมิวสิควิดีโอ ซึ่งตอนแรกไม่ได้คิดว่าทำไมผู้บริหารถึงมาติดต่องานเอง แต่ก็ได้เสนอประวัติ และผลงานของผู้เสียหายให้ และตกลงรับงานไป ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหา อ้างว่าการออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ และอ้างถึงตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีของบรรพบุรุษ ทำให้ตระกูลได้รับความเสียหายนั้น ทางผู้เสียหาย ก็ยืนยันว่า ที่ผ่านมาผู้ต้องหาพยายามใช้เครดิตของบรรพบุรุษของตัวเองมากล่าวอ้างตลอดว่ากำลังจะลงสมัครทางการเมือง

ผู้เสียหาย ยังบอกว่า ในวันเกิดเหตุที่มาแจ้งความ ตำรวจยังพูดจาไม่ดีกับตัวเอง และพยายามให้ไปตรวจร่างกายใหม่ซึ่งห่างจากเสลาเกิดเหตุมาหลายชั่วโมง ทั้งที่ไปตรวจมาแล้ว และเห็นว่าพยายามที่จะแก้ไขสำนวน ซึ่งก็เห็นด้วยที่ผู้บังคับบัญชาให้รองผู้กำกับสอบสวน สน.โชคชัย ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นก่อน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สนธิ' ร้องเรียนสภาทนายความ สอบมรรยาท 'ทนายษิทธา-ทนายเดชา'

ที่สภาทนายความ ถ.พหลโยธิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอร์ค, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พร้อม

ตร. เรียก 'เจ๊อ้อย' ให้ข้อมูลเพิ่ม 2 คดี 'ทนายตั้ม' วางแผนเป็นผู้จัดการมรดก-เงิน 39 ล้าน

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฉ้อโกงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย จำนวน 39 ล้านบาท ว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก สอบปากคำพยานบุคคลต่างๆไปแล้วจำนวนหลายปาก รวมถึงสืบพบพยานหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมหลายอย่าง

สาวไส้ 'ทนายตั้ม' เปลี่ยนพินัยกรรม ตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดก 'เจ๊อ้อย'

ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความกับพวก ในข้อหาฉ้อโกง

ทนายตั้มมีข่าวดี! กกต.ยันอยู่บัญชีสำรอง สว.จนกว่าศาลตัดสิน

'แสวง' ยันทนายตั้มยังไม่ขาดคุณสมบัติ ยังอยู่ในบัญชีสำรองสว.ได้ จนกว่าศาลจะพิพากษา ส่วนคำร้องสว.หมอเกศ และคนอื่น รอสำนักงานมัดรวมสำนวนส่งกกต.ภายในพ.ย.นี้