'บิ๊กโจ๊ก' นำบุกทลายแก๊งโกงสหกรณ์ 74 จุด ยึดทรัพย์ 700 ล้าน

22 ส.ค. 2565 – จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ม.ค.65 ที่ผ่านมา กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์จังหวัดพัทลุง ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ให้ช่วยติดตามคดีการทุจริตภายในสหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวที่เป็นสมาชิกได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก และคดีนี้ยังมีความสลับซับซ้อน แม้มีเจ้าหน้าที่หลายคนถูกพบว่ากระทำผิด แต่ยังสามารถทำงานในสหกรณ์ได้ ซึ่งอาจทำให้พยานหลักฐานต่างๆ สูญหายหรือถูกแก้ไขไปอีก ความเสียหายโดยรวมมีมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท นั้น

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตน เร่งสืบสวนและสอบสวนคดีที่เกิดขึ้น และได้ออกคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 293/2565 ลงวันที่ 22 มิ.ย.65 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งดังกล่าว มีอำนาจในการสืบสวนคดีร่วมกันทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์พัทลุง จำกัด เพื่อเร่งคลี่คลายคดีและติดตามทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายกลับคืนให้กลุ่มผู้เสียหาย

จากการสืบสวนพบว่า ในช่วงปี 2563 หลังจากที่ทางสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ได้มีการเปลี่ยนตัวผู้จัดการสหกรณ์และคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ รวมทั้งได้มีการตรวจสอบการดำเนินการทางบัญชีของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง ผลปรากฏว่า มีการพบความผิดปกติทางบัญชี ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทุจริตของคณะกรรมการดำเนินการ ฝ่ายจัดการเจ้าหน้าที่และบุคคลภายนอกรวมหลายราย จึงได้มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

จากการสอบสวนพยานบุคคล และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏพบกลุ่มผู้ต้องหา ประกอบไปด้วยคณะกรรมการดำเนินการ ผู้จัดการ เจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด และบุคคลภายนอก จำนวน 25 คน มีพฤติการณ์ในการร่วมกันวางแผน แบ่งหน้าที่กันทำ และลงมือกระทำความผิดหลายกรรมหลายวาระต่างกัน เป็นเวลาต่อเนื่องกันมาเป็นเวลายาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 จนถึงปี พ.ศ.2563 โดยมีรูปแบบการกระทำความผิดมากกว่า 10 วิธี เช่น การตกแต่งบัญชีของสมาชิกและไม่ได้เป็นสมาชิก การตกแต่งบัญชีลูกหนี้และลูกหนี้ที่ไม่มีตัวตน หรือตกแต่งบัญชีเกินความเป็นจริง การปลอมใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 1,577,836,978.14 บาท

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ต่อมา ในห้วงระหว่างวันที่ 6 – 8 มิ.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 25 คน ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ประกอบด้วย1.นางสาวสุภา อายุ 68 ปี 2.นางสุพร อายุ 62 ปี 3.นางสุชาดา อายุ 61 ปี 4.นางสาวจุฑารัตน์ อายุ 31 ปี 5.นางสาวนันทิยา อายุ 52 ปี 6.นางอัมพร อายุ 55 ปี 7.นางพัชราภรณ์ อายุ 39 ปี 8.นางสาวสุกัญญา อายุ 43 ปี 9.นางสาวปาณิศา อายุ 40 ปี 10.นางสาวสุวนันท์ อายุ 30 ปี 11.นางสาวกชกร อายุ 26 ปี 12.นายไกรศิริ อายุ 38 ปี 13.พ.ต.ท.วิเชียร อายุ 53 ปี 14.ร.ต.ต.พันธ์ชัย อายุ 55 ปี 15.ด.ต.ชุณฐกฤตม์ อายุ 52 ปี 16.พ.ต.อ.ชำนาญ อายุ 60 ปี 17.ร.ต.ท.อรุชา อายุ 56 ปี 18.ร.ต.อ.ธนเวทย์ อายุ 53 ปี 19.ด.ต.วิชา อายุ 75 ปี 20.นางสารภี อายุ 68 ปี 21.นายศิรัฐโรจ อายุ 44 ปี 22.นางมณฑา อายุ 75 ปี 23.นายวิเชียร อายุ 53 ปี 24.นางพรศรี อายุ 74 ปี 25.นางสาวพัชรา อายุ 40 ปี

โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าหน้าที่ พบว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ไปยังเครือญาติใกล้ชิดของกลุ่มเครือข่ายผู้ต้องหา ในเขตพื้นที่ 9 จังหวัด จึงได้ทำการอายัดบัญชีธนาคารและในวันนี้ (22 ส.ค.65) ได้ขออนุมัติหมายค้นศาลอาญา เพื่อเข้าตรวจค้น 74 เป้าหมายในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง, ภูเก็ต, นครศรีธรรมราช, ตรัง, กระบี่, ประจวบคีรีขันธ์, จันทบุรี, ระยอง และกรุงเทพมหานคร โดยผลการตรวจค้น 1.อายัดบัญชีผู้ต้องหา รวมจำนวน 37 บัญชี เงินคงเหลือในบัญชี 4,369,867.76 บาท 2.ตรวจยึดบ้านพร้อมที่ดิน 28 หลัง 3.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 28 หลัง 4.ห้องชุด 6 ห้อง 5.ที่ดินเปล่า(โฉนด) 13 แปลง 6.ที่ดินเปล่า (นส.3 ก.) 11 แปลง 7. รีสอร์ต 1 แห่ง (หัวหิน) 8. ตลาดสดนาโยง จ.ตรัง (6 ไร่) 9.อายัดทุนเรือนหุ้นสหกรณ์ (ผู้ต้องหา 6 ราย) 10. รถยนต์ 19 คัน รถจักรยานยนต์ 12 คัน และทรัพย์สินอื่นๆจำนวนหลายรายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดอายัด ทั้งหมด 694,441,500 บาท

“คดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์พัทลุงนี้ เป็นคดีที่สร้างความเสียหายให้กับสมาชิกสหกรณ์ในวงกว้างและมีมูลค่าความเสียหายกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงมาก หลังจากที่ได้รับการร้องขอความเป็นธรรมก็ได้มีการเร่งรัดการดำเนินการเรื่อยมา จนสามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด 25 รายได้ก่อนหน้านี้ จากนั้นได้สั่งการให้มีการสืบหาทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด เพื่อจะดำเนินการเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 9 จังหวัดในวันนี้ และเข้าตรวจค้นอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาให้ได้มากที่สุด เพื่อจะนำมาช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายของผู้ที่ได้รับผลกระทบในคดีนี้ ให้ได้รับความเป็นธรรมจนถึงที่สุด” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่อ' สั่งนครบาลสอบด่วน! ป้ายซื้อขายพาสปอร์ต ผิดจริงฟันแน่

'ผบ.ตร.' สั่งตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณาภาษาจีน รับทำหนังสือเดินทาง-ขอสัญชาติต่างๆ กำชับ สตม. ตรวจสอบ คัดกรองคนต่างด้าว เจอกระทำผิดฟันตามกฎหมายทุกมิติ

‘บิ๊กเอก’ ยกเสียงสะท้อนจากตำรวจ เจ็บปวดผู้มีอำนาจข่มขืนองค์กร ถึงเวลาต้องปฏิรูปตร.

อีกเสียงสะท้อนจากนายตำรวจ ที่สื่อสารออกมา อย่างเจ็บปวด เปรียบเทียบให้เห็นภาพองค์กรตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมือง อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทำอะไรไว้ ควรที่จะปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่

'อดีตผช.ผญบ.' ยิงกำนันสาวเจ็บสาหัส ก่อนฆ่าตัวตายหนีความผิด

'อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน' ใช้อาวุดปืน .38 จ่อยิงกำนันสาว ต.แก่งโสภา จนบาดเจ็บสาหัส กลางงานเลี้ยง ก่อนยิงตัวเองเสียชีวิตหนีความผิด

นายกฯ สั่ง ปปง.เร่งยึดทรัพย์แก๊งค้ายา

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ สั่ง ปปง.มีอำนาจพิเศษสูงต้องทำงานแบบล้วงลูก เร่งยึดทรัพย์ตัดตอนขบวนการค้ายาฯ อย่ามัวแต่ช้า หวั่นโอนเงินหนี กำชับอย่าทำงานแบบไซโลให้เป็นข้อครหา

จับแล้ว! ปู่หื่นล่วงละเมิดหลานสาว 7 ขวบ ซ่อนตัวในคราบผ้าเหลือง

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบ TOP G จับกุม นายหนูกุน หรือจ่อย อายุ 57 ปี

นายกฯ นำยึด 'โทลูอีน' สารตั้งต้นยาเสพติด ล็อตใหญ่ 90 ตัน

'เศรษฐา' ลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบับ นำยึด 'โทลูอีน' สารตั้งต้นยาเสพติดล็อตใหญ่กว่า 90 ตัน พบต้นทางเกาหลีใต้ปลายทางเมียนมา กำชับ ตร. ดูแลสวัสดิการเจ้าหน้าที่ หลังเกิดเหตุปะทะ อ.เชียงดาว