นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานให้ความสำคัญการรักษาความมั่นคงทางไซเบอร์ หลังคุกคามหนัก

นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานให้ความสำคัญการรักษาความมั่นคงทางไซเบอร์ หลัง กมช. ประเมินแนวโน้มเหตุการณ์ภัยคุกคามและมูลค่าความเสียหายมีมากขึ้น

19 ส.ค.2565 - ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กำชับทุกส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐให้ความสำคัญกับการมีมาตรการรักษาความมั่นคงทางไซเบอร์ โดยเฉพาะหน่วยงานที่เก็บรักษาฐานข้อมูลที่สำคัญของประชาชน เนื่องจากแนวโน้มของเหตุการณ์และมูลค่าความเสียหายที่มาจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่สูงขึ้น ตามจำนวนผู้ใช้และเข้าถึงบริการอินเตอร์เน็ตและดิจิทัล

ทั้งนี้ รัฐบาลได้วางกลไกการเฝ้าระวังและรักษาความมั่นคงทางไซเบอร์ผ่านคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กมช.) และมีสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เป็นหน่วยดำเนินการในทางปฏิบัติตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา โดยมีพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 เป็นกฎหมายหลักในการกำหนดภารกิจ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ล่าสุด กมช. ได้รายงานถึงการดำเนินงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.2564-มี.ค.2565) พบว่ามีเหตุการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่อฐานข้อมูลหน่วยงานของรัฐ 144 ครั้ง แยกประเภทภัยคุกคามที่พบมากที่สุดได้ ดังนี้ 1. Hacked Website ซึ่งเป็นลักษณะของการพนันออนไลน์ การปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์จริงเพื่อหลอกเอาข้อมูล (Website Phishing) การโจมตีเว็บไซต์เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลเผยแพร่หน้าเว็บไซต์ (Website Defacement) 52 ครั้ง 2. ข้อมูลรั่วไหล 26 ครั้ง 3. จุดอ่อนช่องโหว่ 23 ครั้ง 4. Ransomware หรือ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ 11 ครั้ง และ5. อื่นๆ 32 ครั้ง

สำหรับประเภทของหน่วยงานที่ถูกโจมตีด้วยภัยคุกคามทางไซเบอร์มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. หน่วยงานด้านการศึกษา 36 ครั้ง 2. หน่วยงานด้านสาธารณสุข 29 ครั้ง 3. หน่วยงานของรัฐที่ไม่ใช่หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ 24 ครั้ง 4.หน่วยงานด้านพลังงานและสาธารณูปโภค 8 ครั้ง และ 5. ผู้ประกอบกิจการให้เช่าพื้นที่เว็บไซต์หรือที่เป็นดาต้าเซ็นเตอร์ 7 ครั้ง โดยศูนย์ประสานรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (ศปช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ สกมช. ได้ดำเนินการเพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ด้วยปฏิบัติการต่างๆ ตามขั้นตอน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กมช. ได้ประเมินแนวโน้มเหตุการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ว่า การโจมตีด้วยการปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์จริงเพื่อหลอกเอาข้อมูล (Website Phishing) มีโอกาสพบบ่อยครั้งและอาจมีรูปแบบที่แตกต่างไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และช่องทางการโจมตี หรือการโจมตีบนคลาวด์ก็อาจเกิดขึ้นได้ เพราะเป็นการโจมตีที่ทำได้ง่ายและมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง สำหรับกรณีข้อมูลรั่วไหลในอนาคตมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นและจะก่อให้เกิดมูลค่าความเสียหายแก่องค์กรเป็นจำนวนมาก

“นายกรัฐมนตรีให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยการประสานงานรับคำปรึกษาจาก ศปช. ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ สกมช. เพื่อให้มีแนวทางในการป้องกัน ที่สอดคล้องกับมาตรฐานหรือแนวทางปฏิบัติสากล ทั้งการเตรียมการและป้องกันการเกิดภัยคุกคาม การตรวจจับและวิเคราะห์ภัยคุกคาม การระงับและปราบปรามภัยคุกคาม และการฟื้นฟูระบบงานเกิดผลกระทบ เป็นต้น” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พงศ์พรหม' หนุนกุดหัว 'วุ้นเส้น-นักการเมืองไทยขายชาติ' ตะเพิด 'นักข่าวเทวดา' มีปากแค่เอาไว้ขั้นหู

นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความว่า แยกเป็น 5 เรื่องก่อน 1. ทำไมไอ้วุ้นเส้นถึงชอบปะทะกับไทยนัก แต่ไม่กล้ากับเวียดนาม

'ไตรศุลี' ย้อน 'ลิณธิภรณ์' เจ็บ! ถ้า รบ.เก่าบริหารน้ำดี ปชช.ไม่เดือดร้อนขนาดนี้

'ไตรศุลี' สวนกลับ 'ลิณธิภรณ์' ชี้รัฐบาลเพิ่งทำงานเดือนครึ่ง เร่งเครื่องแก้ปัญหาที่สะสมจากรัฐบาลก่อน อัดหากบริหารน้ำดี ชาวบ้านคงไม่เดือดร้อนอย่างทุกวันนี้ ยันติดตามสถานการณ์อุทกภัยใกล้ชิด

'บิ๊กต่าย' ยกมือ-ส่ายหน้า ไม่ตอบปม 'โจ๊ก' ลุยแฉองค์กรตำรวจพัวพันสแกมเมอร์

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ปฏิเสธตอบคำถาม หลังสื่อพยายามสอบถามกรณีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาแฉว่าภายในอ

แจง 'นายกฯ' ลงพื้นที่อีสานใต้ ไม่ใช่เกมการเมือง ลั่น 'ปัญหาชายแดน-น้ำท่วม' สำคัญเท่ากัน

‘ไตรศุลี’ แจงนายกฯ ลงพื้นที่อีสานใต้ ไม่ใช่เกมการเมือง ชี้รับฟังปัญหาชายแดน–น้ำท่วม เดินหน้าดูแลประชาชนทุกมิติ พร้อมตั้ง คอภ. ประชุม 6 ต.ค.นี้ เตรียมลุยต่อพื้นที่ประสบภัย