'เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ' เชื่อกลุ่มเดิมแต่หน้าใหม่วางบึ้มป่วนใต้!

เลขา สมช.คาด กลุ่มเดิมบึ้มป่วนใต้จุด คุยสันติสุขคืบหน้า ชี้เป็นเทคนิคหวังผลเจรจาไม่เกี่ยวช่วงถกงบปี 2566 มอบ กอ.รมน.ภาค 4 สน.-ตำรวจ ล่าตัวคนร้าย

18 ส.ค.2565 - พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ได้ประชุมหน่วยข่าวในพื้นที่เป็นการเร่งด่วน เพื่อรับฟังปัญหา และมอบแนวทางตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการ โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) ชี้แจงถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ส่วนประเด็นเร่งด่วนที่นายกฯ สั่งการให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด คือ ยกระดับมาตรการ เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก ไม่ให้มีความเสียหายต่อประชาชนทุกกลุ่มและทุกฝ่าย รวมถึงระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ โดย กอ.รมน.ภาค 4 สน. รับไปดำเนินการ

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปคือการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุร้ายเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว มีความยุติธรรม และเป็นไปตามขั้นตอน จากนั้นต้องปรับระบบการทำงานในเรื่องความมั่นคง ทั้งการพูดคุยเพื่อสันติสุข มาตรการรักษาความสงบ และเดินหน้าทำความเข้าใจ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนให้มากขึ้น โดยรัฐบาลพยายามทำและมีความคืบหน้า คือพัฒนาพื้นที่ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีไปถึงระดับรากหญ้า พัฒนาระบบเศรษฐกิจในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการรายงานเบาะแสเกี่ยวกับการก่อเหตุในพื้นที่อย่างไรบ้าง พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า การรายงานข่าวมีอยู่แล้ว โดยการก่อเหตุครั้งนี้ ได้ปรับเปลี่ยนตัวผู้ก่อเหตุ แต่น่าจะเป็นกลุ่มเดิมที่ดำเนินการ ส่วนรายละเอียดนั้นให้รอฟังการสอบสวนของตำรวจ

เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเชื่อมโยงกับเรื่องของการเมือง พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า การเมืองในมิติของการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือความต้องการในบริบทที่เกี่ยวกับการเมือง ซึ่งจะดำเนินการคู่ขนานกับการใช้กำลังด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง เพื่อก่อเหตุรุนแรง จึงมีหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณา โดยกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และตำรวจ อยู่ระหว่างดำเนินการ จึงขอให้รอฟังความชัดเจน

ถามว่าประเมินว่าเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างไรเลขาธิการ สมช. กล่าวว่า การก่อเหตุในพื้นที่เป้าหมายเปราะบาง เป็นพื้นที่ที่ประชาชนดำเนินชีวิตประจำวัน อาทิ ร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า จึงกระทบกับเศรษฐกิจแน่นอน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญ เร่งแก้ไข และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงมีการก่อเหตุในช่วงปลายปี ลักษณะเหมือนเป็นวงรอบ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า เป็นจังหวะของเหตุการณ์ หากติดตามการแก้ไข ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้รวมทั้งการพูดคุยเพื่อสันติสุข ที่มีความคืบหน้าและพูดคุยกันบ่อยครอบคลุมและกว้างขวางมากขึ้น ดังนั้นกลุ่มที่เข้ามามีส่วนในปัญหา ก็จะมีความต้องการที่แตกต่างกันไป ซึ่งเป็นเทคนิคที่จะต้องพยายามตอบสนอง ในขณะที่ประเทศไทยต้องการให้ภาคใต้เป็นพื้นที่สงบสุข อยู่ร่วมกันได้ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม เศรษฐกิจดี ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงต้องนำมาผสมและปรับไปเรื่อยๆ เพื่อให้แต่ละฝ่ายบรรลุวัตถุประสงค์ความต้องการของตัวเอง

เมื่อถามย้ำว่าแต่การก่อเหตุเกิดในช่วงที่มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกัน เพราะถ้าดูในรายละเอียดแผนงาน และโครงการที่ลงไปทำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเห็นว่ารัฐบาลตั้งใจมากที่จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอาชีพและงานทำ ประชาชนอยู่ร่วมกันได้ และมีความเจริญ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ มอบนโยบาย กอ.รมน. เน้น 3 ประเด็น ปราบยาเสพติด-แก๊งคอลเซ็นเตอร์-หนี้นอกระบบ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) เป็นประธานในงานสรุปผลการปฏิบัติงานประจำปี 2567 และแถลงแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2568 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

สภาสูง ยั๊วะ รัฐบาล ข้ามหัว เทตอบ 5 กระทู้ ‘ยุคล’ ตั้งฉายา ‘นายกฯนินจา’ หนีสภา

‘สภาสูง’ ยั๊วะ รบ.ข้ามหัว เทตอบ 5กระทู้ ‘ยุคล’ ตั้งฉายา ‘นายกฯ นินจา’ หนีสภา ‘หมอเปรม’ อาลัย ‘แพทองโพย’ ไร้รับผิดชอบ แขวะใส่ชุดนอนตรวจทหาร หิ้วผัวใต้ออกงาน

'อิ๊งค์' ยิ้มร่ารับฉายา 'รัฐบาลพ่อเลี้ยง' แซวตัวเอง 'แพทองแพด' แฮปปี้ไม่เกลียดใคร

'นายกฯอิ๊งค์' ยิ้มแย้ม ไม่โกรธฉายา 'รัฐบาลพ่อเลี้ยง' ขอมองมุมดี พ่อมีประสบการณ์เพียบช่วยหนุน หยอกสื่อกลับ 'แพทองแพด' ไม่ใช่แพทองโพย บอกไม่ค่อยเกลียดใครมันเหนื่อย แฮปปี้เข้าไว้

‘แม้ว’ ไล่ทุบ- ‘ภูมิใจไทย’ ไม่หมู ‘แดง-น้ำเงิน’ ทนอยู่แบบตบจูบ

นาทีนี้ศึกฝ่ายค้าน-รัฐบาลยังไม่เดือดเท่ากับศึกรัฐบาลด้วยกันเอง แรงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการขบเหลี่ยมของพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2