
8 ส.ค.2565-ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องเอาผิด มท.1-ผู้ว่าฯชลบุรี-ตำรวจกับพวก รวม 8 คน ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้มีการเปิดสถานบริการประเภทผับ Mountain B ในพื้นที่ต้องห้าม และไม่เป็นไปตามกฎหมาย จนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้สร้างความเสียหายต่อชีวิตนักท่องเที่ยวไปกว่า 15 รายและบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ตามที่ปรากฎเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้นั้น
กรณีที่เกิดขึ้นศาลจังหวัดพัทยาได้อนุมัติหมายจับเจ้าของ “เมาน์เทนบี สถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมาสอบสวนเพื่อส่งอัยการฟ้องต่อศาลเพื่อลงโทษต่อไปก็ตาม แต่มีประเด็นที่สังคมไทยวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก หลายประการ อาทิ 1.ผับดังกล่าวอยู่ในพื้นที่โซนนิ่งไม่ให้มีสถานบันเทิง เหตุใดจึงสามารถเปิดดำเนินการได้ 2.ผับดังกล่าวแม้จะมีการยื่นคำขอรับใบอนุญาต แต่ทว่าตามกฎหมายไม่สามารถอนุญาตให้เปิดบริการได้ เหตุใดจึงปล่อยให้เปิดดำเนินการได้ 3.ผับดังกล่าวเคยถูก สภ.พลูตาหลวง จับกุมไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 16 ก.ค.65 ในข้อหาก่อให้เกิดเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญต่อชาวบ้านใกล้เคียง แต่ สภ.พลูตาหลวงกลับไม่ตรวจสอบเลยว่าผับดังกล่าวเปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และอยู่ในพื้นที่โซนนิ่งไม่ให้มีสถานบันเทิง
4.ผับดังกล่าว เดิมเป็นเพียงอาคารที่เปิดเป็นร้านอาหารธรรมดาทั่วไป ต่อมามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงต่อเติมอาคารทำเป็น “ผับ” (ม.3 พรบ.สถานบริการ 2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติม) อย่างชัดแจ้ง แต่กลับไม่มีการตรวจสอบว่าขออนุญาตต่อเติมอาคาร ตาม พรบ.ควบคุมอาคาร 2522 หรือไม่ 5.ผับดังกล่าวเปิดเกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ชาวบ้านแจ้งว่าบางวันถึงตี 4 ก็มี เหตุใดจึงสามารถเปิดดำเนินการได้ถึงเวลาดังกล่าวได้ และ 6.ไฟไหม้ผับดังกล่าวพบว่ามีเด็กหรือเยาวชนอายุ 17-18 ปีเสียชีวิตอยู่ด้วย แสดงให้เห็นว่ามีการละเลยการตรวจสอบ ปล่อยให้เด็กหรือเยาวชนเข้าไปใช้บริการได้อย่างไร
ทั้งนี้พรบ.สถานบริการ 2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดให้ รมว.มหาดไทยเป็นผู้รักษาการกฎหมาย ส่วน ม.3 กำหนดให้ “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความถึง “ผู้ว่าราชการจังหวัด” ซึ่งใน ม.4ของกฎหมายดังกล่าวระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดตั้งสถานบริการ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” จึงเป็นหน้าที่และอำนาจของฝ่ายปกครองที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และในขณะเดียวกันมีคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 7/2551 กำหนดให้ฝ่ายปกครอง-ตำรวจ ต้องกวดขันตรวจตราการฝ่าฝืนกฎหมายข้างต้นอย่างเคร่งครัดในพื้นที่รับผิดชอบของตนด้วย แต่ทว่าก็ยังปล่อยให้มีการละเมิดกฎหมายขึ้นมาได้ นำมาซึ่งความสูญเสียอย่างมาก ซึ่งมท.1-ผู้ว่าฯชลบุรี-ตำรวจและพวก ต้องร่วมกันรับผิดชอบในกรณีนี้ จะลงโทษทางวินัยแค่สั่งย้ายออกนอกพื้นที่นั้นไม่เพียงพอ สมาคมฯจึงต้องมาร้อง ป.ป.ช.เพื่อให้ไต่สวนสอบสวนเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระทึก! ตร.ไล่ล่า 3 พ่อค้ายา ซิ่งหนีตาย เจอฉลามบกรวบ
พ.ต.ท.อภิชาติ วงษ์ศรี สารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 5 (ทล.3 กก.5) สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ยุทธ จตุรชัยภิญโญ สว.ทางหลวง, ร.ต.ต.สินจัย เจียรเพชร
แห่ฝากบ้านกับตำรวจ 3 พันหลัง 'บิ๊กต่าย' สั่งตรวจตราเข้ม
พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2569 นี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
โปรดเกล้าฯ เรียกคืนเครื่องราชฯ อดีตข้าราชการตำรวจ 6 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิ
ตำรวจเปิดตัว 'ของขวัญปีใหม่' 4 โครงการ ดูแลปชช.ช่วงเทศกาล
'ผบ.ตร.' กำชับ 3 มาตรการ ดูแลประชาชนช่วงเทศกาล พร้อมเปิดตัวของขวัญปีใหม่ 4 โครงการ 'Police Care - ฝากบ้าน - Cyber Check – ห้องพักทั่วไทย'
ป.ป.ช. เลื่อนชี้ขาดคดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล หลังยื่นขอความเป็นธรรม
นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) รักษาราชการแทนเลขาธิการป.ป.ช. กล่าวถึงกระแสข่าวคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่จะนัดลงมติคดีอดีต 44 สส.พรรคก้าวไกล ผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีการเข้าชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ไต่สวนเสร็จแล้ว! คดี 44 อดีตสส.ก้าวไกล รอลุ้น ประธาน ป.ป.ช. ชงชี้ชะตา 25 ธ.ค.นี้
ป.ป.ช. บรรจุวาระประชุมพิจารณา คดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล กรณีถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯอย่างร้ายแรง ในการร่วมลงชื่อ และยื่นเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเดิมคาดว่าจะมีการบรรจุวาระในวันที่ 25 ธ.ค.นั้น

