ตำรวจไซเบอร์ ทลายแก๊งหลอกระดมทุนออนไลน์ เงินหมุนเวียนกว่า 1.4 พันล้าน

1 ก.ค.2565 - ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบอาญชกรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมขบวนการฉ้อโกงหลอกลวงระดมทุนพบเงินหมุนเวียนกว่า 1.4 พันล้านบาท

พล.ต.ท.กรไชย ผบช.น.สอท.เปิดเผยว่า ตำรวจสืบสวนทราบว่า บริษัท นอร์ทเทิร์น ลอว์เยอร์ จำกัด (Northern Lawyer ) มีพฤติการณ์การโฆษณาชักชวนประชาชนทั่วไปทางสื่อสังคมออนไลน์ ให้มาสมัครเป็นสมาชิกในลักษณะการระดมทุน ซึ่งอ้างว่าจะนำเงินลงทุนของสมาชิกไปทำการลงทุนต่างๆ เช่น ซื้อขายทรัพย์สินดิจิทัล (Cryptocurrency) ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (Forex)ซื้อขายทองคำ ธุรกิจค้าขายอสังหาริมทรัพย์ ซื้อขายรถยนต์มือสอง และทำการค้าอัญมณี โดยจะให้ผลตอบแทนแก่สมาชิกในอัตราที่สูงสุดถึง 180% ต่อปี การลงทุนจะแบ่งเป็น 5 แพ็กเกจ เช่น แพ็กเกจแรก เริ่มต้นลงทุนที่ 4,000 บาท ครบ 10 เดือน รับผลตอบแทน 6,000 บาท ไล่เรียงไปตามจำนวนเงินลงทุน ไปจนถึงแพ็กเกจสุดท้าย ลงทุนสูงสุดที่ 400,000 บาท ครบ 10 เดือน รับผลตอบแทนถึง 600,000 บาท โดยมีสมัครสมาชิกสนใจสมัครเข้าร่วมลงทุนในแพ็กเกจต่างๆ กว่า 90,000 รายการ มีเงินหมุนเวียนกว่า 1,400 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้มีการนำเงินลงทุนของสมาชิกไปลงทุน หรือทำธุรกิจตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด แต่เป็นการหลอกลวงลงทุนในลักษณะของแชร์ลูกโซ่ อันเป็นความผิดตามกฎหมาย

กระทั่งเมื่อ 28 มิ.ย. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัด บก.สอท.4 ได้เปิด ยุทธการตัดวงจรความเสียหายหลอกระดมทุน เข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 5 แห่ง อ.เมืองเชียงใหม่ 2 แห่ง, อ.สันทราย 3 แห่ง ผลการปฏิบัติสามารถท าการจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ น.ส.ดารารัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ และ น.ส.เกวรินทร์ซึ่งทำหน้าที่เป็นวิทยากร และชักชวนหาสมาชิกมาร่วมลงทุน ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในข้อหา “ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตาม ม.4, 12แห่ง พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 (มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี – 10 ปี ปรับตั้งแต่ 500,000 บาท –1,000,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่) และร่วมกันทุจริต หรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตามมาตรา 14(1) แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 (มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) ”

ผบช.สอท.เปิดเผยอีกว่า พร้อมกันนี้ ตรวจยึดทรัพย์สินหลายรายการมูลค่า 32.27 ล้านบาท ได้แก่ โฉนดที่ดิน 7 แปลง รถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ 2 คัน กระเป๋ าแบรนด์เนม กว่า 10 ใบ และสามารถทำการอายัดเงินในบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหาได้ 16.74 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า49 ล้านบาท นำตัวผู้ต้องหาส่ง พงส.บก.สอท.4 ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตจเรตำรวจฯ ขอทำเรื่องเฉพาะหน้า ‘เพิ่มเงิน-สวัสดิการตำรวจ’ ก่อนจะไปเปลี่ยนประธาน ก.ตร.

ณะนี้มีการเคลื่อนไหวจะปฏิรูปตำรวจโดยตำรวจเอง หลักๆคือให้นายกรัฐมนตรีไม่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.  แต่ประธานจะมาจากการเลือกกันเองเหมือนคณะกรรมการข้าราชการอัยการ หรือ ก.อ. กระผม ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเก่า

‘นักกฎหมายตำรวจ’ ถอดบทเรียน การเข้าระงับเหตุ ลดความสูญเสีย

ด้วยความเคารพความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เสียชีวิต ควรแก่การยกย่องเป็นเกียรติประวัติสืบไป แต่การเข้าระงับเหตุ ของตำรวจไทยมีข้อผิดพลาด ต้องนำไปถอดบทเรียนแก้ไข

สลด! หนุ่มมุกดาหารโดนไฟดูด ดับคาเสาไฟฟ้าแรงสูง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนตายบนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านคำตุนาง ไปยังหมู่บ้านกุดโง้ง ตำบลมุก อำเภอเมือง

‘บิ๊กเอก’ ยกเสียงสะท้อนจากตำรวจ เจ็บปวดผู้มีอำนาจข่มขืนองค์กร ถึงเวลาต้องปฏิรูปตร.

อีกเสียงสะท้อนจากนายตำรวจ ที่สื่อสารออกมา อย่างเจ็บปวด เปรียบเทียบให้เห็นภาพองค์กรตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมือง อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทำอะไรไว้ ควรที่จะปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่

'อดีตผช.ผญบ.' ยิงกำนันสาวเจ็บสาหัส ก่อนฆ่าตัวตายหนีความผิด

'อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน' ใช้อาวุดปืน .38 จ่อยิงกำนันสาว ต.แก่งโสภา จนบาดเจ็บสาหัส กลางงานเลี้ยง ก่อนยิงตัวเองเสียชีวิตหนีความผิด

ทั่นโรมเตือนสติตำรวจอย่างรีบปิดคดี 6 ศพชาวเวียดนาม

'โรม' หวัง ผลสอบ 'พบศพชาวต่างชาติ' โปร่งใส เตือน 'ตำรวจ' พึงสังวรณ์หากรีบปิดคดีให้เรื่องเงียบ จะสูญเสียศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม-ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศอย่างป่นปี้