รองโฆษกตำรวจเตือนประชาชนอย่าเห็นแก่เงิน รับจ้างเปิดบัญชีม้า-ซิมม้ามีความผิด รู้ตัวรีบยกเลิกด่วน
29 มิ.ย.2565 - พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบพบว่า นอกจากกลุ่มอาชญากรจะมีการซื้อบัญชีธนาคารจากบุคคลอื่นเพื่อนำไปใช้ในการกระทำความผิดหรือที่เรียกกันว่าบัญชีม้าแล้ว ยังพบว่ามีการชักชวนให้ประชาชนเปิดซิม หรือจดทะเบียนโทรศัพท์มือถือเพื่อขายให้กับกลุ่มอาชญากรอีกด้วย
“คนร้ายจะนำซิมการ์ดที่ได้ไปใช้ในการกระทำความผิด เช่น ใช้โทรศัพท์ไปหลอกลวงเหยื่อ, ใช้ประกอบการเปิดระบบธนาคารออนไลน์หรือเปิดกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อรอรับเงินโอนจากการหลอกลวงเหยื่อหรือรับโอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิด , ใช้ผูกกับบัญชีสื่อสังคมออนไลน์แล้วนำไปใช้กระทำความผิด เป็นต้น”
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์กล่าวต่อว่า สาเหตุที่อาชญากรพยายามหาบุคคลอื่นมาจดทะเบียนเปิดหมายเลขโทรศัพท์หรือเปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวก็เพื่อต้องการปิดบังตัวตน และป้องกันไม่ให้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงมาถึงตัวได้ อีกทั้งเป็นการผลักภาระในการถูกดำเนินคดีในเบื้องต้นให้เจ้าของบัญชีธนาคารหรือหมายเลขโทรศัพท์ อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามี พี่น้องประชาชนส่วนหนึ่ง ที่ยังเห็นว่าเป็นวิธีการที่ได้เงินมาง่าย ไม่ต้องลงแรงมากมาย เพียงแค่ขายชื่อของตนเองให้คนอื่นนำไปจดทะเบียนเปิดหมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรือ บัญชีธนาคารเท่านั้น สุดท้ายต้องตกเป็นผู้ต้องหาในหลายคดี
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนไปยังกลุ่มบุคคลดังกล่าวว่า หากบัญชีธนาคาร หรือซิมโทรศัพท์มือถือ ที่ท่านให้บุคคลอื่นถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด ท่านอาจถูกดำเนินคดีในฐานะเป็นตัวการร่วม หรือผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด อีกทั้งหากท่านรับจ้างเปิดบัญชีม้า หรือซิมม้า จำนวนมาก คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรับโทษเพิ่มขึ้น ตามจำนวนบัญชีธนาคารและซิมโทรศัพท์มือถือที่ท่านได้ให้บุคคลอื่นนำไปใช้ในการกระทำความผิด
“หากพี่น้องประชาชนเคยหลงเชื่อขายซิมโทรศัพท์มือถือ หรือบัญชีธนาคาร ให้กับบุคคลอื่นไปแล้ว ให้รีบไปติดต่อกับ ค่ายโทรศัพท์หรือธนาคารเพื่อขอยกเลิกหมายเลขโทรศัพท์หรือปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวโดยเร็ว และหากพบเห็นการประกาศรับซื้อซิมโทรศัพท์มือถือหรือบัญชีธนาคาร ขอความกรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อหยุดวงจรฉ้อโกงออนไลน์ ที่สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.ไซเบอร์ จับบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเอาเงิน 'ชาล็อต' สูญ 4 ล้าน
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.,พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 และ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 รรท. ผบก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว
‘ผบ.ตร.’ สั่งตำรวจเข้มงวดดูแลชีวิตและทรัพย์สินประชาชนช่วงปีใหม่
"ผบ.ตร."กำชับมาตรการเข้ม ดูแลชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ช่วงเทศกาลคริสต์มาส -ปีใหม่ ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ลดอุบัติเหตุฟัน 10 ข้อหาหลัก
'สันธนะ' หอบหลักฐานเด็ดให้ 'บิ๊กต่าย' มัดคนฆ่า สจ.โต้ง ไม่ใช่ 'โกทร'
นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล พร้อมทีมงาน ประสานเข้าพบ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
'บิ๊กต่าย' ยันไม่ได้ลอยตัว ปม ป.ป.ช. รับไต่สวนจนท.รัฐ เอื้อทักษิณนอนชั้น 14 พร้อมทำตามกฎหมาย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติให้ตั้งองค์คณะไต่สวนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ รวม12 ราย
ผบ.ตร. เซ็นโอนคดี 'สจ.โต้ง' ให้กองปราบแล้ว ผลนิติวิทยาศาสตร์เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาจิ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เซ็นโอนคดี นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร อายุ 86 ปี นายก อบจ.ปราจีนบุรี
ระวังมิจฉาชีพ 'ตำรวจ' ย้ำอายัดเงินเองได้ ไม่ต้องโอนมาให้ตรวจสอบ
ย้ำเตือนตำรวจอายัดเงินเองได้ ไม่ต้องโอนมาให้ตรวจสอบ หากมีตำรวจวิดีโอคอลให้โอนเงินคือมิจฉาชีพ