'เต้' แก้เกี้ยวแค่หยอกตื้บ 'ทนายเดชา' ฮึ่มฟ้องกลับดักฟังโทรศัพท์

‘เต้’ อ้างแค่หยอกล้อ กระทืบ ‘ทนายเดชา’ ขู่แจ้งความกลับข้อหาดักฟังโทรศัพท์ โถไม่ย้อนแย้ง ‘อัจฉริยะ’ จับมือ ‘บังแจ็ค’

30 พ.ค. 2565 – ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงกรณีการพูดจาข่มขู่จะกระทืบ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ที่พูดพาดพิงคดีแตงโม ว่า เป็นแค่การหยอกล้อ การใช้คำไม่สุภาพ เพราะคุยกันในฐานะเพื่อน ขณะนี้พรรคไทยศรีวิไลย์มารับผิดชอบคดีแล้ว บางทีการออกความเห็นทำนองข่มขู่โจทก์ แม่แตงโมก็อายุมากแล้ว อยากให้ออกความเห็นเชิงวิชาการที่ไม่กระทบคดีมากกว่า มิเช่นนั้นจะผิดมารยาททนายความ ตั้งแต่แรกที่ตนตั้งทีมทนายความขึ้นมาดูแลคดีก็หมิ่นประมาทว่าเป็นคณะตลก แต่เห็นว่าเป็นเพื่อนกัน จึงไม่อยากดำเนินคดีทางกฎหมายหรือมารยาททนายความ

ส่วนที่บอกจะใช้วิถีทางการเมืองจัดการ ถ้ายังไม่หยุดวุ่นวายในคดีนี้ ไม่อยากขยายความ แต่ตนมีสมาชิกพรรคเป็นหมื่นคน ถ้าไม่พอใจขึ้นมาอาจไปประท้วงได้ หรือหากมีสมาชิกพรรคไปแจ้งความดำเนินคดีในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ไม่อยากให้ลำบากกัน ขอร้องนายเดชาถ้าไม่จำเป็นอย่าออกมาให้ความเห็น ถ้าไม่สบายใจจะให้ไวน์ไปดื่มอาทิตย์ละขวด

เมื่อถามว่า นายมงคลกิตติ์ ถูกมองว่ามีพฤติกรรมกร่าง ใช้อำนาจ ส.ส.ข่มขู่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส.ก็มีอยู่แล้ว ปกติถ้าคนไม่รักชอบพอกัน จะไม่คุยกัน การที่นายเดชาจะดำเนินคดีกับตนข้อหาข่มขู่นั้น การคุยโทรศัพท์กัน 2 คน มีกฎหมายระบุชัดเจนว่า การเอาข้อความที่โทรคุยกัน 2 คนไปเปิดเผย มีความผิดฐานดักฟังโทรศัพท์ตามประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายเกี่ยวกับโทรเลขและโทรศัพท์ มาตรา 24 มีโทษจำคุก 6 เดือน ถือว่ามีความผิดแน่ ถ้าเอาข้อความที่โทรคุยกันไปเผยแพร่ โดยตนไม่อนุญาต และตามคำพิพากษาศาลฎีกา การบันทึกเสียงไม่สามารถนำไปดำเนินการอะไรได้ เพราะได้ข้อมูลมาโดยทุจริต การที่นายเดชาเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะถูกข่มขู่นั้น ขอให้รับรองความปลอดภัย ตนก็ไม่ได้บอกจะทำอะไรนายเดชา แค่บอกว่าถ้าเป็นคนอื่น จะไม่มาคุยกันแบบนี้ ตนจะไม่เตือนอีก

ส่วนที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เคยบอกว่า บังแจ็คเป็น 18มงกุฎ แต่ยังมาร่วมงานด้วยนั้น บังแจ็คไม่มาร่วมงาน แค่มาตรวจพยานหลักฐาน ถ้าเป็นพยานหลักฐานสำคัญต้องรับไว้ ขอให้ผ่านชั้นศาลชั้นต้นไปก่อน เรื่องส่วนตัวค่อยมาว่ากัน ไม่ถือว่าย้อนแย้ง ต้องแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับคดีให้ออก อย่าผิดใจระหว่างทาง จะทำให้หลักฐานไม่ครบ คดีไม่สมบูรณ์ แม้บังแจ็คจะมีคดีมากมาย แต่คดียังไม่ถึงที่สุด ถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ การไปว่าเป็น 18 มงกุฎ ดูไปหมิ่นสิทธิเสรีภาพมากไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลกางแผนปี 68 ไล่ตรวจสอบ 'นอมินี' 2.6 หมื่นราย เน้นธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมรีสอร์ต

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้รายงานผลการตรวจสอบธุรกิจที่มีลักษณะนอมินี

ผบ.ตร. มอบ 'พล.ต.อ.ธนา' คุมคดีหมอบุญ เร่งประสานอินเตอร์โพลออกหมายแดงล่าตัว

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน

ผบ.ตร. ขอรอดูพฤติการณ์ 'สามารถ' หลบหนีหรือไม่ หลังถูกจับที่เชียงราย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้าควบคุมตัวนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน

เพื่อนร่วมรุ่น แจ้งจับ 'หมอบุญ' หลอกลงทุนโรงพยาบาล สูญเงิน 25 ล้าน

น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ เป็นหนึ่ง พานายโพธิรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ทันตแพทย์ และพญ.สลวย (สงวนนามสกุล) อายุ 86 ปี คุณแม่ภรรยาและเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของนายแพทย์บุญ วนาสิน หรือหมอบุญอายุ 86 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวนบก.ปอศ.

รองผบช.ก. เผยเตรียมออกหมายจับเพิ่ม 1-2 ราย เอี่ยว 'ทนายตั้ม' ฉ้อโกงเจ๊อ้อย

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีของน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย ที่ถูกนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ฉ้อโกง โดยระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานจากพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อทนายตั้มในกรณีเงิน 39 ล้านบาท