งานนี้ยาว! 'ทนายเดชา' ฝากคนปั่นเฟซบุ๊ก ผิดพ.ร.บ.คอม ยันคุณแม่แตงโม รักไม่เคยเปลี่ยนแปลง

22 พ.ค.2565 –  ที่​ สน.โคกคราม​ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์​ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน​เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม​ กรณีแจ้งความดำเนินคดี​กับ​ นาย อัจฉริยะ​ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ทั้งนี้ นายเดชา  กล่าวถึงกรณีที่นายอัจฉริยะได้ออกมากล่าวว่า รู้ตัวคนทำ และเวลาที่เกิดเหตุ อยากจะย้อนถามกลับว่า ถ้ามีหลักฐานทำไมไม่นำมาแถลงข่าว ทั้งที่ไลฟ์สดจนได้ยอดวิวเยอะแล้ว และเท่าที่ทราบมาทางนายอัจฉริยะ มีพยานหลักฐานคนสำคัญ คาดว่าน่าจะเป็นบังแจ็ค และจะเกี่ยวข้องกับการปล่อยคลิปหรือไม่ นั้น อยากจะให้ไปถามนายอัจฉริยะ โดยตรงมากว่า ทำไมถึงทราบความคืบหน้าของโพสต์ดังกล่าวตลอด

“การโพสต์ดังกล่าวทางคุณแม่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำ แต่กรณีที่นำเฟซบุ๊ก หรือ อินสตราแกรมของบุคคลที่เสียชีวิตแล้วมาโพสต์ข้อความตามที่เป็นกระแสอยู่นั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั้งพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และการหมิ่นประมาทในการโฆษณา  ไปด่าคนอื่น และเปลี่ยนแปลงข้อมูล ส่วนตัวมองว่า จุดประสงค์ที่นำมาโพสต์นั้นบุคคลดังกล่าว น่าจะหวังยอดวิว ยอดแชร์ หรือ หวังที่ชี้นำสังคม รวมถึงสร้างความปั่นป่วน” นายเดชา ระบุ

นายเดชา กล่าวด้วยว่า ยืนยันว่าโทรศัพท์ของแตงโมอยู่ที่คุณแม่ ซึ่งภาพต่างๆที่นำออกมาโพสต์จนเป็นกระแสในตอนนี้ก็อยู่ในสำนวนของพนักงานสอบสวน และไม่มีผลต่อคดี


 นายเดชา ระบุว่า ส่วนข่าวบอกว่าคุณแม่แตงโมปลดนั้น เป็นเรื่องโกหก เพราะยังติดต่อกับคุณแม่อยู่ตลอด และความสัมพันธ์ในตอนนี้ ยังคงเหมือนกับเพลงความรักไม่เคยเปลี่ยนแปลง  และความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับทนายตั้มนั้น ก็ยังรักกัน และเป็นเพื่อนกันดี ไม่มีการแย่งคดีแน่นอน  จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองไม่ได้รู้สึกกังวลใจและคาดว่า คดีความที่มีการฟ้องร้องจะมีการออกหมายเรียกในเร็วๆนี้ ไม่เกินสิ้นเดือนนี้แน่ และหลังจากนี้ก็จะมีคดีอื่นๆตามมาอีก

“นายอัจฉริยะว่า ในไลฟ์สดมักจะพูดปากสั่นๆ คิ้วกระดก มองซ้ายมองขวานั้น ไม่มีใครจะมายิงหรอก แต่จะมีเชิญตัวไปให้ปากคำ ผมรู้สึกเป็นห่วงคุณอัจฉริยะ เพื่อนของผมมากกว่า เพราะคนกลัวจะไม่มีเวลาไปขึ้นศาล และยืนยันว่า ยังสนิทมาก รักกัน  จนถึงขั้นต้องมาแจ้งความเพิ่ม เพราะอยากให้เพื่อนอยู่เป็นที่เป็นทาง ซึ่งถ้าแพ้คดีก็คงจะอยู่ในเรือนจำต่อ แต่ถ้าชนะก็มานั่งไลฟ์สดต่อได้ และนอกจากถูกผมแจ้งความแล้ว เชื่อว่า ทางหน่วยงานที่ถูกพาดพิงน่าจะมีการตรวจสอบเพิ่มในกลุ่มคุณหมอ ทั้งคุณหมอที่ไม่ได้ผ่าศพ แต่เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ตลอด และคุณหมอที่นำความลับในนิติเวชไปเปิดเผย” นายเดชา ระบุ .

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กูรูอัจฉริยะฟันธงปมเรื่อง 'ต้นอ้อ' แค่สร้างคอนเทนต์

'อัจฉริยะ'โว รู้หมดใครเป็นอย่างไร หลัง 'ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง' ถูกแฉแอบอ้าง 'รองเลขาฯนายกฯ' อัดเบื้องหลังสกปรกทุกคน อวยตัวเองทำงาน 15 ปี ไม่มีคดีฉ้อโกง บอกสมัยนี้การสร้างคอนเทนต์ ตีฟูกระแสจนเวอร์เกิน

อัจฉริยะขู่ฟ้อง 'เศรษฐา-ฉัตรชัย' หากยังนิ่งปม 'พล.ต.ต.เอกรักษ์'

'อัฉริยะ' บุกสภา พึ่ง 'กมธ.ฟอกเงิน' สอบ รองเลขาฯ ปปง.เอี่ยวรับสินบนเว็บพนันออนไลน์-ลักรถผู้กำกับโจ้ ขู่ ร้อง ป.ป.ช. เอาผิด 'นายกฯ-ฉัตรชัย' ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่หากเรื่องยังเงียบ

ทนายเดชาเผย 'หนุ่ม กะลา' ส่อบวชยาวจนกว่าเรื่องจะจบ พร้อมไกล่เกลี่ยภรรยา

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนายณพสิน แสงสุวรรณ หรือ หนุ่ม กะลา เปิดเผยถึงกรณีการให้สัมภาษณ์ของ จูน เพ็ญชุลี ภรรยา นายณพสิน เกี่ยวกับประเด็นคําเบิกความต่อศาลที่เคยฟ้องดําเนินคดีมือที่ 3 ก่อนหน้านี้ ว่า หนุ่ม กะลา มีรายได้ปีละ 30 ล้านบาท แต่ในงบการเงินที่นํามาแสดงนั้นมีรายได้เพียง 14 ล้านบาท

'จูน' โต้กลับ 'หนุ่ม กะลา' แจงค่าใช้จ่ายละเอียดยิบ ยักยอกทรัพย์ตรงไหน

จูน เพ็ญชุลี ภรรยา หนุ่ม กะลา สวนกลับสามีทันที หลังอีกฝ่ายควงทนายเดชา กิตติวินันท์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงประเด็นที่ฟ้องคนใกล้ชิดยักยอกเงิน 66 ล้านบาท ซึ่งหมายถึงเธอ โดยทางฝั่ง จูน เพ็ญชุลี ได้ออกมาชี้แจงในมุมของตัวเองบ้าง โดยได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า

'หนุ่ม กะลา' แถลงยื่นฟ้องภรรยา อ้างยักยอกเงิน

หลังจากที่นักร้องดัง หนุ่ม กะลา หรือ ณพสิน แสงสุวรรณ มอบหมายให้ ทนายเดชา กิตติวินันท์ ยื่นฟ้อง 2 คนใกล้ชิด ปมยักยอกเงิน 66 ล้าน รวมถึงมอบหมายให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำลายชื่อเสียงผ่านโซเชียลมีเดียหรือออกรายการทีวีต่าง ๆ ล่าสุด หนุ่ม กะลา พร้อมทนาย ได้ตั้งโต๊ะแถลงเรื่องที่เกิดขึ้น

'หนุ่ม กะลา' ยื่นฟ้องคนใกล้ชิด ยักยอกเงิน 66 ล้าน

มีเรื่องมาให้ชาวโชเชียลได้สนุกกันอีกแล้ว เมื่อ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ได้ออกมาลงภาพถ่ายกับ หนุ่ม กะลา ในเพจ ทนายคลายทุกข์ พร้อมกับระบุข้อความว่า ได้รับมอบหมายจากนักร้องดังให้ยื่นฟ้อง 2 คนใกล้ชิด ยักยอกเงินบริษัทเข้าบัญชีส่วนตัว 66 ล้าน และดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำลายชื่อเสียงผ่านโซเชียลมีเดียหรือออกรายการทีวีต่างๆ