ผู้การ ฯเมืองคอนเซ็นทันทีให้ รอง ผกก.มือสังหารสองผัวเมียรับซื้อน้ำยาง จ.ตรัง ออกจากราชการไว้ก่อนหลังชิงเข้ามอบตัว-ลั่นเชื่อมีข้อมูลที่เชื่อได้ว่าร่วมกระทำความผิดจริง
29 ต.ค.2564 - กรณีคนร้ายขับรถกระบะ ประกบรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน สีเงิน ทะเบียน ขก 720 สุราษฎร์ธานี ก่อนใช้ปืนสงคราม เอ็ม16 กราดยิงจนรถเสียหลักชนต้นไม้ข้างถนนเพชรเกษม 403 สายตรัง-ทุ่งสง ช่วงหน้าสนามกีฬาชนไก่ควนเมา หมู่ 2 บ้านต้นเลียบ อ.ควนเมา อ.รัษฎา จ.ตรัง ทำให้ น.ส.วราภรณ์ เพียรดี หรือเอ๋ อายุ 39 ปี และ นายวีระยุทธิ์ ขุนอินทร์ หรือสุกิจ อายุ 39 ปี คนขับรถ สองสามีภรรยา รับซื้อน้ำยางพาราสด เสียชีวิต และบุตรชาย วัย 14 ปี ไม่ได้โดนคมกระสุน แต่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนอาการสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดตรังออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 3 คน ประกอบด้วย พ.ต.ท.วริทธิ์ธร ประสิทธิ์ชัย อายุ 48 ปี รอง ผู้กำกับการสืบสวน สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช นายจิรศักดิ์ กลับขัน อายุ 58 ปี และนายชำนิ ชำนาญกิจ อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.แก้วแสน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช
ในขณะที่เมื่อวานนี้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 แถลงความคืบหน้าคดีปรากฏว่า พ.ต.ท.วริทธิ์ธร ประสิทธิ์ชัย ได้ชิงเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และได้มี การประสานให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.รัษฎา จ.ตรัง นำกำลังตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้าในคดีนี้เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 29 ต.ค. 2564 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ก่อนการเป็นประธานการประชุมประจำเดือนและมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจ ซึ่งเป็นทุนจำนวน 55 ทุน ๆ ละ 4,000 บาท ของนักธุรกิจชาวไทยในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเคยเป็นผู้เสียหายในคดีเท่าแชร์คุณนายอลิส 168 และประทับใจกับการให้บริการดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาจึงมอบหมายให้ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อม พ.ต.อ.ธีร์ธวัต ธุระกิจ รอง ผบก.ผค.สยศ.ตร. เป็นตัวแทนในการมอบทุนให้กับบุตรข้าราชการตำรวจดังกล่าว
พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีสังหารสองผัวเมียรับซื้อน้ำยาง จ.ตรังและการมอบตัวพ.ต.ท.วริทธิ์ธร ประสิทธิ์ชัย อายุ 48 ปี รอง ผู้กำกับการสืบสวน สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช 1 ในผู้ต้องหาว่า เมื่อวานทาง พ.ต.ท.วริทธิ์ธร ประสิทธิ์ชัยชาญ รอง ผกก.สส.สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราชได้เข้ามามอบตัวกับทาง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราชและผบก.สส.ภาค8 ที่ จ.นครศรีธรรมราช ขณะนี้ตนได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงและมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้วมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนผลการสอบสวนทางวินัยจะได้ความว่าอย่างไรก็ต้องรอดูผลสอบสวนไปก่อน แต่ในชั้นนี้ให้ออกจรากราชการไว้ก่อนครับ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ เนื่องจากเรามีข้อมูลที่น่าเชื่อถือว่าเขาน่าจะกระทำความผิด เราก็ต้องดำเนินการรตามระเบียบ เพื่อให้ชาวบ้านเห็นว่าเราไม่ได้เข้าข้างตำรวจก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน
“ส่วนผลสอบสวนทางวินัยร้ายแรงจะออกมาอย่างไรก็ต้องรอผลนั้นด้วยครับ การสอบสวนทางวินัยก็เริ่มต้นวันนี้ ซึ่งรายละเอียดจะปรากฏชัดมาเรื่อย ๆ ขอเวลาอีกนิดครับ” ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาแล้ว! ศาลปกครอง ร่อนเอกสารชี้แจงปม 'บิ๊กโจ๊ก' ยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ
ศาลปกครอง เผยแพร่เอกสารชี้แจง กรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน นั้น
ผบ.ตร. ไม่ขอก้าวล่วง ศาลปกครองสูงสุด ชี้ขาด 'บิ๊กโจ๊ก' ขอคุ้มครองชั่วคราว
พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองยกคำร้องคุ้มครองชั่วคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ว่า ตนขอให้ความเห็นแบบกว้าง ๆ
ศาลปกครองสูงสุด ปิดเงียบผลชี้ขาดคดีบิ๊กโจ๊ก สั่งเก็บหลักฐานฟันสื่อละเมิดอำนาจศาล
นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
จบแล้วบิ๊กโจ๊ก! สะพัด ศาลปกครองสูงสุด ชี้คำสั่ง 'ให้ออกจากราชการ' ชอบด้วยกฎหมาย
ที่ศาลปกครองกลาง ถ.เเจ้งวัฒนะ มีการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยนายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุม
'บิ๊กโจ๊ก' ดิ้นสู้! ฟ้อง 'พล.ต.อ.' ใส่ร้ายเอี่ยวเว็บพนัน เตรียมยื่นฟ้องกูรูอีกคน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ยื่นฟ้องคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ท่านหนึ่ง ยศพลตำรวจเอก และเป็นกูรูด้านกฎหมายที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบประเด็นความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
'บิ๊กโจ๊ก' ส่งตัวแทนยื่นหนังสือถึง 'บิ๊กต่อ' ขอให้ยกเลิกคำสั่งให้ออกจากราชการ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตัวแทน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางไปที่ศูนย์รับ-ส่งหนังสือ