เดินหน้าปิดเว็บมังกรฟ้า ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่ม ให้ดีอีเอสภายใน 2 สัปดาห์ ส่งศาลอีกรอบ หลังกรณ๊ยกฟ้องเพราะหลักฐานไม่พอ ด้าน ประธานอนุกรรมการศึกษาแนวทางแก้สลากเกินราคาฯ เผยความคืบหน้าการทำงาน และนำชมการสัญญาตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล
12 พ.ค. 2565 – พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา กล่าวถึงกรณีศาลอาญามีคำสั่งยกฟ้องมาปิดเว็บไซต์มังกรฟ้าว่า ในเรื่องนี้พนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องเสนอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เสนอศาลขอปิดเว็บมังกรฟ้าไป 3 เว็บไซต์ ซึ่งศาลมีคำสั่งให้ปิดไป 2 เว็บไซต์ ยกคำร้อง 1 เว็บไซต์ โดยการยกคำร้อง 1 เว็บไซต์ เมื่อได้นำคำพิพากษาของศาลมาพิจารณาดูแล้ว พบว่าขณะนั้น พยานหลักฐานยังมีน้อย เนื่องจากศาลยังไม่ได้อนุมัติหมายจับ
อย่างไรก็ตาม กฎหมายระบุว่า หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก็สามารถยื่นขอให้ศาลพิจารณาปิดเว็บไซต์ใหม่ได้ ซึ่งตนในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอไปยังกระทรวงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อเสนอให้ศาลพิจารณาปิดเว็บไซต์มังกรฟ้าอีกครั้งหนึ่ง รวมถึงจะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน และนำผลสอบสวนเพิ่มเติม ของเว็บไซต์ที่จำหน่ายสลากออนไลน์อีก 16 เว็บไซต์ เพื่อเสนอขอปิดทั้งหมดพร้อมกัน เพราะเว็บไซต์อื่นก็ทำผิดกฎหมายเช่นกัน โดยมีการจำหน่ายสลากเกินราคาทั้งหมด
“ในขณะที่มีการเสนอขอปิดเว็บไซต์ เราเร่งรัดโดยศาลยังไม่ได้มีคำสั่งออกหมายจับจึงอาจทำให้มีหลักฐานไม่พอ แต่ขณะนี้เมื่อศาลได้อนุมัติหมายจับและได้มีการดำเนินคดีกับมังกรฟ้าแล้ว 4 ข้อหา ได้แก่ ความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ความผิดโฆษณาเกินจริง ความผิดจำหน่ายสลากเกินราคา และความผิดพ.ร.บ.ขายตรง ซึ่งใน 4 ฐานความผิดนี้ก็เป็นความผิดที่ชัดเจนอยู่แล้ว จึงถือเป็นพยานหลักฐานใหม่ ที่จะเสนอต่อศาลเพิ่มเติม ในการขอให้พิจารณาปิดเว็บไซต์อีกครั้ง ซึ่งตนไม่หนักใจเพราะทำไปตามขั้นตอนของกฎหมายและตรงไปตรงมา”
ในส่วนของเรื่องคดี ยังไม่จบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพราะเรื่องนี้เป็นเพียงการพิจารณาเกี่ยวกับปิดเว็บเท่านั้น แต่ในเรื่องสำนวนการสอบสวน จะต้องมีส่งไปให้พนักงานอัยการเพื่อส่งไปศาลด้วย ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการปิดเว็บไซต์ ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการต่อไป
ขณะเดียวกันในเวลา 15.30 น. ที่ห้องประชุมเอนกประสงค์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา กล่าวต่อผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าในการประชุมคณะอนุกรรมการ และนำชมบรรยากาศการทำสัญญาตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การประชุมคณะอนุกรรมการฯ ในวันนี้ว่า ได้มีการหารือถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรณีปัญหาการขัดกันแห่งผลประโยชน์ (conflict of interest) ในส่วนของที่มา โครงสร้าง คุณสมบัติและความเหมาะสมของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลในปัจจุบัน รวมถึงเรื่องการจัดสรรสลากให้ส่วนภูมิภาคให้แก่จังหวัดและคลังจังหวัด ซึ่งที่ประชุมได้รับฟังการชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจากสำนักงานสลากฯ และจะนำไปประกอบการศึกษา เพื่อให้ครบถ้วนทุกมิติต่อไป
ประธานคณะอนุกรรมการ กล่าวต่อไปอีกว่า จากการประชุมอย่างต่อเนื่องในระยะเวลากว่า 2 เดือนที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการได้มีข้อสรุปหัวข้อการศึกษาที่ลงลึกในมิติต่างๆ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ที่เป็นสาเหตุของปัญหาทั้งหมดที่ทำให้สลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ประกอบด้วย โครงสร้างคณะกรรมการสลากฯ ซึ่งเป็นต้นทางในการกำหนดนโยบาย ในการบริหารจัดการ รวมถึง โครงสร้างราคา ช่องทางการจัดจำหน่าย การเปลี่ยนมือของสลาก ความเหมาะสมของสัดส่วนการจัดสรรและการกระจายสลาก ซึ่งจะนำไปสู่กลางทาง คือการบริหารจัดการของฝ่ายจัดการ ที่จะทำให้ปลายทางคือราคาสลาก ถึงมือผู้ขายจริงในราคาไม่เกิน 80 บาท รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ การขึ้นทะเบียนผู้ค้า และการบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ การใช้กลไกการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นต้น
โดยศึกษาเปรียบเทียบงานวิจัย/รายงานการศึกษาต่างๆ และในขณะเดียวกัน ต้องมีการหาแนวทางมาตรการทางฎหมายเพิ่มเติมเพื่อให้การบังคับใช้มีประสิทธิภาพ ทั้งทางแพ่ง อาญา และกฎหมายอื่นประกอบกันด้วย ทั้งนี้ หลังจากได้ผลการศึกษาแล้ว คณะอนุกรรมการจะส่งไปที่สำนักงานสลาก ฯ เพื่อพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยคณะอนุกรรมการชุดนี้ มุ่งมั่นจะทำหน้าที่ศึกษาต้นตอปัญหา หาสาเหตุที่แท้จริง และเสนอแนวทางมาตรการที่จะสามารถนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้สลากถึงมือผู้ขายจริง และผู้ซื้อสามารถซื้อได้ในราคา 80 บาท ได้อย่างเป็นรูปธรรม
และในวันเดียวกัน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำผู้สื่อข่าวชมบรรยากาศการทำสัญญาตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล หรือโครงการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มการจำหน่ายสลากของสำนักงานสลาก ฯ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในงวด 16 มิถุนายน 2565 ว่า จากการเปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายเมื่อวันที่ 3 – 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีผู้สมัคร 4,802 ราย ซึ่งสำนักงานสลากฯ ได้เชิญมาทำสัญญา ระหว่างวันที่ 11-21 พฤษภาคม 2565 เมื่อวานนี้ จัดทำสัญญาเป็นวันแรก มีผู้มาทำสัญญา 496 ราย และเพื่อให้ได้ตัวแทนจำหน่ายครบตามเป้าหมาย 10,000 ราย สำนักงานสลากฯ จึงได้ประกาศรับสมัครตัวแทนจำหน่าย “สลากดิจิทัล” รอบที่ 2 เพิ่มอีก จำนวน 5,802 ราย โดยรับสมัครจากผู้ที่เคยมาลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าไว้กับสำนักงานสลากฯช่วงต้นปี 2565 ซึ่งมีจำนวนกว่า 900,000 ราย รับสมัครผ่านเว็บไซต์ www.glo.or.th ได้ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 เวลา 12.00 น. ถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 เวลา 24.00 น. ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯ จะพิจารณาคัดเลือกจากลำดับการสมัครก่อน-หลัง โดยผู้ที่สมัครเข้ามาก่อนจะได้รับการเรียกให้มาทำสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายของสำนักงานสลากฯ โดยโครงการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มของสำนักงานสลากฯ จะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาแล้ว! ศาลปกครอง ร่อนเอกสารชี้แจงปม 'บิ๊กโจ๊ก' ยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ
ศาลปกครอง เผยแพร่เอกสารชี้แจง กรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน นั้น
กูรูใหญ่ปูดข่าว 'บิ๊กโจ๊ก' ให้การ ปปช. ยืนยันชั้น 14 'ป่วยทิพย์'
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
ลุ้นองค์คณะฯอ่านคำพิพากษา ดับฝัน 'โจ๊ก-แมว9ชีวิต' กลับตร.
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา "บิ๊กโจ๊ก" - พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อตรวจสอบความชอบธรรมของคำสั่งให้ออกจากราชการ ซึ่งคดีนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจทางปกครองในระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผบ.ตร. ไม่ขอก้าวล่วง ศาลปกครองสูงสุด ชี้ขาด 'บิ๊กโจ๊ก' ขอคุ้มครองชั่วคราว
พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองยกคำร้องคุ้มครองชั่วคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ว่า ตนขอให้ความเห็นแบบกว้าง ๆ
ศาลปกครองสูงสุด ปิดเงียบผลชี้ขาดคดีบิ๊กโจ๊ก สั่งเก็บหลักฐานฟันสื่อละเมิดอำนาจศาล
นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
จบแล้วบิ๊กโจ๊ก! สะพัด ศาลปกครองสูงสุด ชี้คำสั่ง 'ให้ออกจากราชการ' ชอบด้วยกฎหมาย
ที่ศาลปกครองกลาง ถ.เเจ้งวัฒนะ มีการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยนายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุม