จับเพิ่ม 2 เยาวชนร่วมก่อเหตุปาระเบิดปิงปองประตู ร.1รอ.บ้านพักนายกฯ เผยจับได้แล้ว5 จากผู้ร่วมก่อเหตุ ทั้งหมด 7 คน
13 เมษายน 2565 - จากกรณีคนร้ายขี่จักรยานยนต์ปาระเบิดปิงปองใส่บริเวณประตู ร.1 รอ. ซึ่งมีบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยมีผู้ร่วมกันก่อเหตุ รวม 7 คนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 5 คน และทาง พงส. ส่งฝากขังต่อศาลไปแล้ว
ที่ สน.บางซื่อ เมื่อเวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บชน. ได้ควบคุม 2 เยาวชนผู้ร่วมก่อเหตุปาระเบิดปิงปอง จากจังหวัดนครนายก มาส่งให้พนักงานสอบสวน เพื่อทำการสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับคดีนี้หลังเกิดเหตุทางตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาไปแล้ว 5 คน ประกอบด้วย นายธนายุทธ ณ อยุธยา หรือ "บุ๊ค" ศิลปินแร็ปเปอร์วง Eleven Finger พร้อมแฟนสาว และเยาวชนชายอายุ 15 ปี ถูกจับได้ที่บ้านพักย่านคลองเตย จากนั้นได้จับเยาวชนชายอายุ 17 ปีเพิ่มอีก 1 คน
ส่วนนายพรพจน์ แจ้งกระจ่าง เจ้าของเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า "เพชร พระอุมา" ได้เข้ามอบตัวตามหมายจับในความผิดฐาน "ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิด และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร" โดยพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ขออำนาจศาลฝากขังไปก่อนหน้านี้แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลรับฟ้อง 'ธนายุทธ' แร็พเปอร์วงอีเลฟเว่น ฟิงเกอร์ กับพวก3 คน ร่วมก่อเหตุปาบึ้ม ร.1 รอ.
ศาลรับฟ้อง 'ธนายุทธ'แร็พเปอร์วงอีเลฟเว่น ฟิงเกอร์ กับพวก3 คน ร่วมก่อเหตุปาบึ้ม ร.1 รอ. รอลุ้นประกัน เจ้าตัวลั่นออกมาต่อสู้กับความอยุติธรรมที่กดขี่ปชช.ระดับรากหญ้าจนทนไม่ไหวเกินจะเยียวยา
สน.บางซื่อฝากขัง 'พรพจน์' หนึ่งในผู้ต้องหาปาระเบิด ร.1รอ. ศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว
สน.บางซื่อฝากขัง 'พรพจน์'หนึ่งในผู้ต้องหาปาระเบิดร1รอ. ร่วมกับ 'บุ๊ค-แรปเปอร์' ศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว ชี้เป็นคดีมีความร้ายแรง อัตราโทษสูง ก่อนส่งเข้าเรือนจำ
'บิ๊กตู่' เชื่อคนปาระเบิดหน้า ร.1 รอ. เป็นคนกลุ่มเดิมๆ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีมีคนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาก่อเหตุปาระเบิดปิงปอง
'อัษฎางค์' ยกกรณีวัยรุ่นปาระเบิดบ้านนายกฯ ถูกจับหมดอนาคต ส่วนแกนนำรอเสพสุข
อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ว่า เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่อ่อนประสบการณ์และอ่อนต่อโลก คือเหยื่อของการถูกปลุกปั่นให้กลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง