ทลายกลุ่มพ่อค้าหมู ตั้งวงปาร์ตี้ยา พกอาวุธปืนเพียบ

26 มี.ค.2565 - ที่สถานีตำรวจภูธรเมือง จังหวัดนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.สุรชัย สุกใส รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม ว่าที่ พ.ต.อ.อรรถการ กองสุผล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวกับฝ่ายสืบสวน ทลายแก๊งปาร์ตี้ยาอี ซึ่งจากการสืบสวนของฝ่ายสืบสวนทราบว่า มีกลุ่มบุคคลมั่วสุมเสพยาเสพติดรวม 24 ราย

ทั้งนี้เมื่อกลางดึกวันที่ 25 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า ที่รีสอร์ท บ้านสวนคุณอุ่น พูลวิลล่า ต.วังตะกู อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากมาเปิดห้องพัก ลักลอบมั่วสุมเสพยาเสพติดและส่งเสียงดัง หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ไปตรวจสอบ เมื่อไป ถึงพบกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมอยู่ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจ ตรวจสอบพบกลุ่มบุคคลจํานวน 24 คนรวมตัว มั่วสุมกัน จึงทําการแยกชาย-หญิง และทําการตรวจค้นพบสิ่งของผิดกฎหมายทั้งอาวุธปืนและยาเสพติด จึงยึดไว้เป็นของกลาง จากนั้นนําตัวทั้งหมดไปตรวจสารเสพติด พบบางรายมีสารเสพติด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหาฝ่าฝืนพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ทั้งหมด

โดยแบ่งกลุ่มผู้ต้องหา แยกตามข้อหาความผิดเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ 1.ผู้ต้องหาที่กระทําความผิด ตาม พรบ.อาวุธปืนฯ จํานวน 5 ราย ประกอบด้วย1.นายเสกสรร อายุ 27 ปี 2.นายนนทกานต์ อายุ 21 ปี ข้อหา 3. นายวิชัย อายุ 38 ปี 4. นายประจิม อายุ 37 ปี 5. นางสาวธนพร อายุ 28 ปี ในข้อหา“มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดย ไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันจําเป็น เร่งด่วนตามสมควร”

สำหรับผู้ต้องหาที่กระทําความผิด ตาม พรบ.อาวุธปืนฯ และ พรบ.ยาเสพติดฯ จํานวน 3 ราย 1. นายทรงวุฒิ อายุ 27 ปี 2. นายอาณัติ อายุ 31 ปี 3. นายพงศกร อายุ 27 ปี กระทำผิดข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันจําเป็น เร่งด่วนตาม สมควร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย และเสพวัตถุออกฤทธิ์ใน ประเภท2(คีตามีน)โดยผิดกฎหมาย”

ส่วนผู้ต้องหาที่กระทําความผิด ตาม พรบ.ยาเสพติดฯมี จํานวน 8 ราย 1. นายฉลองวุฒิ อายุ 38 ปี 2. นส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี 3. นายอรรณกร อายุ 28 4. นายธีระวัฒน์ อายุ 27 ปี 5. นายโกวิทย์ อายุ 37 6. นางสาวเมธาวี อายุ 26 ปี 7. นายบี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี 8.นายพีรดนย์ อายุ 20 ปี ข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาอี)โดยผิดกฎหมาย และเสพวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท2(คีตามีน)โดยผิดกฎหมาย” และผู้ต้องหาที่ตรวจไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย และผลตรวจไม่พบสารเสพติด อีกจำนวน 8 ราย ได้แจ้งข้อหา "ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558"

สำหรับของกลาง ที่ตรวจยึดได้จากบริเวณที่เกิดเหตุมี อาวุธปืนขนาด 9 มม.จํานวน 5 กระบอก อาวุธปืนขนาด11มม.จํานวน3กระบอก รวม 8 กระบอก เป็นปืนมีทะเบียนจํานวน 7 กระบอก และไม่มีทะเบียนจํานวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน จํานวน 67 นัด ยาคีตามีน จํานวน 20.1 กรัม ยาอี จํานวน 6 เม็ด นําตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐมดําเนินคดี

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยรายละเอียดในคดีนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับ ภายในรีสอร์ท ดังกล่าว มีคนเป็นจำนวนมากมั่วสุม ท้าทายคำสั่งนายกรัฐมนตรี ในมาตรการป้องกัน และควบคุมโรคระบาด ไวรัสโควิด 19 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลัง เข้าไปตรวจสอบ และแสดงตัวเข้าจับกุม ตามคำสั่งของ ผบ.ตร.ในมาตรการป้องกันและกวาดล้างอาชญากรรม อาวุธปืน ยาเสพติด สิ่งของผิดกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินประชาชน ขณะนี้ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทุกคน รวมถึงอาวุธปืนดังกล่าว เคยใช้ก่อเหตุที่ไหนหรือไม่ พร้อมขยายผลเรื่องยาเสพติด เพื่อจะได้กวาดล้างให้หมดไปจากประเทศไทย

ในการปฏิบัติในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังสืบสวนหาข่าว และเข้าตรวจสอบผู้กระทำความผิด ตามคติ “คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์” จนกระทั่งพบกลุ่มผู้ลักลอบกระทำความผิด ตามที่สืบสวนหาข่าว ในนามของตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงพี่น้องประชาชน ว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชน ทั้งนี้ขอชมเชยพร้อมทั้งขอขอบคุณ เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

ทางด้าน พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ค้าขายเนื้อสุกรชำแหละในพื้นที่ พร้อมกันนี้อยากฝาก ถึงผู้ประกอบการรีสอร์ท ห้องเช่า อาคารให้เช่า หากพบเห็นมีการรวมกลุ่ม หรือมั่วสุมของคนเป็นจำนวนมาก แนะนำให้แจ้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบ เพื่อท่านจะได้ไม่ตกเป็นผู้ต้องหา ให้การสนับสนุนการกระทำผิดดังกล่าว