สธ. เผย 'โอมิครอน' ขาขึ้น​ ติดเชื้อสูงกว่าเดลต้า​ แต่เสียชีวิต​น้อยกว่า​ 10 เท่า​

24 ก.พ.2565 - ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้​อำนวยการ​กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่​ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้ทั่วโลกติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้การระบาดค่อนข้างเร็ว จำนวนผู้ติดเชื้อมากแต่เสียชีวิตลดน้อยลง วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1.8 ล้านคน เสียชีวิต 10,559 คน ในสัปดาห์เดียวทั่วโลกติดเชื้อ 11.8 ล้านคน เสียชีวิต 64,682 คน โดยการเสียชีวิตยังคงเป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และไม่ได้ฉีดวัคซีน

นพ.จักรรัฐ​ กล่าวว่า​ สำหรับสถานการณ์ต่อจากนี้ ในประเทศไทยจะเป็นขาขึ้นของโอมิครอน ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นประมาณ 70% จึงต้องให้ความสำคัญกับผู้ป่วยอาการหนัก ปอดอักเสบ และต้องใส่ท่อช่วยหายใจ รวมถึงผู้เสียชีวิต ซึ่งในช่วง 2 สัปดาห์ เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า แต่พบว่าในประเทศไทยผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ไม่มีอาการ และอาจไม่ได้รับการตรวจทั้งหมด จึงขอให้รีบเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง พร้อมกับคงระดับเตือนภัยระดับ 4 ทั่วประเทศ งดเข้าสถานที่เสี่ยงทั้งหมด หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่โดยเฉพาะการเดินทางที่ต้องใช้บริการขนส่งสาธารณ

นพ.จักรรัฐ กล่าวว่าการระบาดระลอกโอมิครอน จะมีผู้ติดเชื้อสูงกว่าการระบาดระลอกเดลต้า​ (อินเดีย)​ในปี 2564 แต่เมื่อเปรียบเทียบการเสียชีวิต พบว่าระลอกเดลต้าช่วงที่มีการติดเชื้อสูงสุด เสียชีวิต 1,823 คน ขณะที่ในสัปดาห์ที่ 6 ของปี 2565 เสียชีวิต 188 คน ห่างกันถึง 10 เท่า ทำให้ค่อนข้างสบายใจได้ว่าการติดเชื้อทำให้อาการป่วยรุนแรงไม่มาก แต่ถ้าผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 10 เท่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะมากขึ้น 5-10 เท่าได้​ สำหรับผู้ป่วยอาการหนักช่วงสูงสุดของระลอกเดลต้า ผู้ป่วยปอดอักเสบ 5,615 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 1,172 เสียชีวิต 301 คน ระลอกโอมิครอน ปอดอักเสบ 900 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 200 คน ทางด้านสถานการณ์ครองเตียง ขณะนี้มีผู้ป่วยวิกฤตไม่ถึง 20% ขณะที่ผู้ป่วยอาการน้อย ครองเตียงมากถึง 55.7%

นพ.จักรรัฐ​ กล่าวเพิ่มเติม​ว่า​ มีคนสอบถามเข้ามามาก ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดจะเป็นอย่างไร ซึ่งยอมรับว่าคาดการณ์ค่อนข้างยาก แต่จากกราฟสถานการณ์จริง จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พุ่งขึ้นค่อนข้างเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากหลังตรุษจีน มีการผ่อนคลายมาตรการค่อนข้างมาก หลายจังหวัด สายตื๊ด ดื่มสุรา ยืนเต้นในสถานที่ปิดทึบ ไม่มีการระบายอากาศที่ดี ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สถานประกอบการอย่างเดียว แต่อยู่ที่ผู้ใช้บริการด้วย ขอให้งดเข้าสถานที่เสี่ยงเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เพื่อน และครอบครัว อย่านำตัวเข้าไปเพิ่มความเสี่ยง ระลอกโอมิครอน มีผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการจำนวนมาก บางคนไม่รู้ตัวว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงแพร่เชื้อ

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าในกลุ่มผู้ป่วยปอดอัดเสบ ที่เพิ่มชัดเจนคือสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะเพิ่มอีกหากไม่มีมาตรการป้องกันร่วมกับการฉีดวัคซีน ซึ่งในรอบการระบาดของโอมิครอน มีผู้สูงอายุที่ไม่ฉีดวัคซีน อัตราการเสียชีวิต 178 ราย ต่อ 1 ล้านประชากร แต่หากผู้สูงอายุฉีดบูสเตอร์โด๊ส จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตลง 41 เท่า ฉีด 2 เข็ม ลดอัตราการเสียชีวิต 6 เท่า เพราะฉะนั้นการฉีดวัคซีนจำเป็นมากในผู้สูงอายุในการควบคุมโรค และไม่ทำให้ผู้เสียชีวิตในไทยลดลง ต้องค้นหาผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้ฉีด 2.2 ล้านคน จากทั้งหมดประมาณ 12.7 ล้านคน แม้ว่าจะครอบคลุมแล้ว 82.8% ซึ่งสูงมาก แต่ยังต้องการให้สูงขึ้นอีก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โควิดกลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’  ขออย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้

เวลาผ่านไปโรคโควิดลดความรุนแรงลง โรคโควิดไม่น่ากลัวหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกลัวโรคโควิดมากเกินไป

สายการบิน 'ลุฟท์ฮันซา' ต้องจ่ายค่าปรับกรณีเลือกปฏิบัติต่อผู้โดยสารชาวยิว

สายการบินลุฟท์ฮันซาต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 4 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา เหตุเพราะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดขอ

ไทยติดโควิดรอบสัปดาห์ 353 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 6 - 12 ตุลาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่