4 ก.พ.2565 - ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่าสถานการณ์ระดับโลกประจำวันพบติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านคน สะสมอยู่ที่ 388 ล้านราย เสียชีวิตรายวัน 1.03 หมื่นราย สะสมทั้งหมด 5.7 ล้านราย โดยวันนี้ (4 ก.พ.) ติดเชื้อใหม่สูงสุดอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา 1.64 แสนราย เสียชีวิต 1.7 พันราย, อินเดีย 1.47 แสนราย เสียชีวิต 1.1 พันราย และบราซิล 2.77 แสนราย เสียชีวิต 923 ราย ส่วนประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 9.9 พันราย และเสียชีวิต 22 ราย โดย 96% เป็นคนไทย 0.9% เป็นคนเมียนมาร์ 0.5% เป็นคนกัมพูชา และ 2.6% เป็นคนจากพื้นที่อื่น ๆ เช่น นักท่องเที่ยว เป็นต้น
นพ.เฉวตรสรร กล่าวว่า อย่างไรก็ตามการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนของไทยเป็นผลพวงมาจากเทศกาลปีใหม่ที่มีการกินดื่มสังสรรค์กันมาก โดยกลุ่มที่พบการติดเชื้อสูงสุดเป็นวัยผู้ใหญ่อายุ 20-29 ปี จำนวน 21.5% รองลงมาเป็น 30-39 ปี จำนวน 18.7% และ 40-49 ปี จำนวน 14.2% ตัวเลขที่น่าสนใจคือกลุ่มเด็กอายุ 0-9 ปี เริ่มมีการติดเชื้อมากขึ้นที่ 10.3% ทั้งนี้หากพิจารณาค่าเฉลี่ยการติดเชื้อจากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 – 2 ก.พ. 65 โดยนำค่าเฉลี่ยแต่ละวันมาคิดเป็นเฉลี่ยจะพบว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิดโลกได้ผ่านจุดสูงสุดของการระบาดระลอกโอมิครอนมาแล้ว คือวันที่ 28 ม.ค. 65 ขณะที่เส้นยอดผู้เสียชีวิตไม่ได้พุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบเท่ากับยอดการติดเชื้อแต่อย่างใด หรืออาจกล่าวได้ว่ามีการยกตัวขึ้นมาบ้าง แต่โอมิครอนไม่ได้รุนแรงเท่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า ส่วนประเทศแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสายพันธุ์โอมิครอนพบว่า ผ่านการติดเชื้อสูงสุดมาแล้วตั้งแต่ 18 ธ.ค. 64 แล้วกราฟค่อย ๆ มีการลดลงตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่ ถัดมาได้แก่ประเทศอังกฤษ ซึ่งได้พบการติดเชื้อโอมิครอนในสัดส่วนที่สูงมากในช่วงหลังปีใหม่ โดยมีการติดเชื้อสูงสุดในราววันที่ 8 ม.ค. 65 และเริ่มมีการลดลงเรื่อย ๆ ส่วนอัตราการเสียชีวิตยกตัวสูงขึ้นตามหลังจากการระบาดสูงสุดมาเล็กน้อย แต่ไม่มากไปกว่าช่วงระบาดเดลต้า (อินเดีย) ในส่วนประเทศไทยจุดสูงสุดของการระบาดโอมิครอนอยู่ที่วันที่ 17 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา และขณะนี้ได้ผ่านจุดสูงสุดการระบาดมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตรงนี้เป็นผลมาจากไทยมีมาตรการช่วยชะลอการติดเชื้อให้ลดลงได้เป็นอย่างดี
สำหรับฉากทัศน์คาดการณ์การระบาดโควิด แม้ช่วงแรกประเทศไทยจะขึ้นไปตามกราฟสีเทาหรือสถานการณ์เลวร้ายที่สุดติดเชื้อ 3 หมื่นราย แต่ด้วยการเคร่งครัดมาตรการ VUCA ทำให้ยอดการติดเชื้อของไทยกลับมาอยู่ระดับต่ำกว่าเส้นสีเขียว หรือระดับต่ำสุด แม้วันนี้จะมียอดการติดเชื้อเฉียด 1 หมื่นคน แต่ถือว่ายังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้แต่ต้น ไม่ได้สูงกว่าที่คาดการณ์แต่อย่างใด ขณะที่ฉากทัศน์คาดการณ์การเสียชีวิตจากโควิดนับว่าไทยทำได้ต่ำกว่าเส้นสีเขียวที่กำหนดไว้ ถือว่าเป็นผลมาจากความร่วมมือกันของประชาชน ในปัจจุบันยอดการติดเชื้อในไทยเฉียดหมื่นคน โดยยอดเสียชีวิตยังมาจากกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือรับวัคซีนมานานแล้ว จึงอยากขอเชิญชวนประชาชนเข้าฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ส่วนกลุ่มเสี่ยง 7 โรคเรื้อรังและผู้สูงวัยจะมีโปรแกรมฉีดเข็มที่ 4 ตามมา ส่วนมาตรการ UP จะช่วยให้เราคุมจำนวนผู้ติดเชื้อให้ลดลงให้อยู่ในระดับที่คุมได้
นพ.เฉวตสรร ยังแถลงอีกว่า ในส่วนของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในไทยเพิ่มขึ้น 2.9 แสนโดส สะสม 116.1 ล้านโดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 52.4 ล้านโดส ครอบคลุม ร้อยละ 75.4 ของประชากร เข็มที่ 2 จำนวน 48.7 ล้านโดส ครอบคลุม ร้อยละ 70.1 และเข็มที่ 3 อีก 14.9 ล้านโดส ครอบคลุม ร้อยละ 21.4 ทั้งนี้ จำแนกตามกลุ่มเป้าหมาย พบว่า ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว 4.9 ล้านราย จากเป้าหมาย 4.7 ล้านราย คิดเป็น ร้อยละ 105.7 ส่วนผู้อายุมากกว่า 60 ปี ฉีดเข็มที่ 1 แล้ว 8.3 ล้านราย จากเป้าหมาย 12.7 ล้านราย คิดเป็น ร้อยละ 66
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไข้หวัดนกโผล่ อเมริกันติดเชื้อ ป่วยขั้นรุนแรง
กรมควบคุมโรคเผย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก สายพันธุ์ H5N1 ที่รัฐลุยเซียนา
กรมควบคุมโรค เผย ชาวอเมริกันติดไวรัสไข้หวัดนกจากฝูงนกหลังบ้านเป็นรายแรก หนัก!นอนICU
กรมควบคุมโรค เผยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ Centers for Disease Control and Prevention (CDC) รายงาน ผู้ติดเชื้อไวรั
'หมอธีระวัฒน์' ยกตัวอย่างคนป่วยวัคซีนโควิด รายแล้วรายเล่า ถ้านิ่งเฉยไม่ควรเป็นแพทย์หรือมนุษย์
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ตัวอย่างของคนป่วย รายแล้วรายเล่า ไม่จบไม่สิ้นนำมาแสดงบางราย ทั้งนี้เป็นที่หมอดูเองและร่วมดูทั้งสิ้น