สธ.จ่อลดระดับเตือนภัยโควิด หลังระบาดทรงตัว แผนคุมโอมิครอนได้ผล

‘ปลัดสธ.’ แจง ​14 วัน​ หลังปีใหม่ โควิดระบาดทรงตัว​ แนวโน้มลดลง จ่อปรับลดระดับเตือนภัย โชว์ 4 มาตรการรับมือโอมิครอนได้ผล

14 ม.ค. 2565 – ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวง​สาธารณสุข ​แถลงข่าว​สถานการณ์​การ​แพร่ระบาด​ของ​โรค​โค​วิด​-19 ว่า ตามที่คาดว่าจะมีการระบาดหลังจากช่วงปีใหม่ เนื่องจากมีการเดินทางและมีเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ขณะนี้ครบ 14 วันแล้ว กระทรวง​สาธารณสุข​จึงขอสรุปแนวโน้มสถานการณ์โควิด-19 โดยทั่วโลกพบติดเชื้อใหม่วันนี้ 2.9 ล้านราย ถือว่าตัวเลขสูง แต่มาดูอัตราเสียชีวิตลดลงมา ซึ่งประเทศที่พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้น คือสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี แต่อัตราป่วยหนักและเสียชีวิตมีสัดส่วนลดลง สำหรับไทยพบติดเชื้อใหม่ในประเทศ 7,916 ราย มาจากต่างประเทศ 242 ราย ผู้เสียชีวิต 15 รายในจำนวนนี้เป็นกลุ่ม 608 ถึง 13 ราย ส่วนผู้ป่วยปอดอักเสบ 110 ราย ที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 105 ราย

นพ.เกียรติ​ภูมิ​ กล่าวว่า​ แนวโน้มการติดเชื้อในประเทศใน 14 วัน พบว่า ช่วงสัปดาห์แรกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ขณะนี้ทรงตัว มีแนวโน้มทรงต่อไป และค่อยๆ ลดลง ส่วนผู้ป่วยหนักมีแนวโน้มลดลงมาตลอด ส่วนผู้ใส่ท่อช่วยหายใจที่ป่วยหนักมากลดลงต่ำที่สุด เท่าที่เราเคยมี โดยล่าสุดกระทรวง​สาธารณสุข​ได้ประกาศเตือนภัยในระดับ 4 คือให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention งดเข้าสถานที่เสี่ยง ชะลดเดินทาง ซึ่งจะพิจารณาลดระดับสถานการณ์ลดในระยะถัดไป

นพเกียรติ​ภูมิ​ กล่าวเพิ่มเติม​ว่า ตามการคาดการณ์ฉากทัศน์การระบาดระลอกเดือน ม.ค. 2565 ช่วงแรกการระบาดรวดเร็วเป็นไปตามเส้นสีเทา คือ หากมาตรการไม่ได้ผลจะทำให้พบติดเชื้อวันละ 3 หมื่นราย ซึ่งอยากให้อยู่ในเส้นสีเขียว ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนน้อย แต่ด้วยเชื้อโอมิครอนที่ระบาดเร็ว ทำให้ช่วงแรกพบติดเชื้อไปในเส้นสีเทา แต่ด้วยความร่วมมือประชาชนดี ระวังมากขึ้น ทำให้การระบาดคงที่และมาแตะที่เส้นสีส้ม คือ อยู่ในระดับปานกลาง

“คาดว่าหากการติดเชื้อยังทรงตัวเช่นนี้ต่อเนื่อง ก็จะลดลงไปถึงเส้นสีเขียวโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม โรครุนแรงน้อยลง คนมีภูมิต้านทานมากขึ้น ทำให้อัตราเสียชีวิตลดลงเช่นกัน โดยเราก็จะสามารถอยู่กับโรคได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น” นพ.เกียรติภูมิ ระบุ

ปลัด สธ. กล่าวว่า​ สถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสม 108,594,507 โดส ถือว่าฉีดได้มาก โดยต้นปีได้ปรับฐานประชากรใหม่จากกระทรวงมหาดไทย โดยเข็มที่แรกครอบคลุมประชากร ร้อยละ 76.92 ส่วนเข็มที่สองครอบคลุม ร้อยละ 70.32 เข็มที่สามครอบคลุม ร้อยละ 13.63 ซึ่งเข็มที่ 3 ขึ้นเร็วมาก ข้อมูลวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา 337,033 โดส โดยเข็มที่สามในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว หรือแซนด์บ็อกซ์ อยากให้ถึงร้อยละ 50 โดยเร็วใน 1-2 เดือนนี้ ซึ่งจะพยายามเร่งฉีดวัคซีน หากทำได้ถือว่าประเทศปลอดภัยอีกระดับหนึ่ง

สำหรับ สธ.วางมาตรการรับมือโอมิครอน 4 ส่วน คือ 1.มาตรการสาธารณสุข โดยต้องชะลอการระบาด เนื่องจากโอมิครอนติดเร็ว หากเร็วมากอาจส่งผลต่อระบบสาธารณสุข แม้จะไม่รุนแรง แต่หากระบาดซ้ำ อาจเกิดกลายพันธุ์ได้ ทั้งนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงานว่า ปัจจุบันยังไม่พบการกลายพันธุ์ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา 14 วัน แผนการชะลอการระบาดถือว่าควบคุมได้ดี ไม่ได้ระบาดรวดเร็วจนโกลาหล อยู่ในการควบคุม จึงต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกัน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนมารับวัคซีน เน้นมาตรการ ATK First ตรวจตามความเสี่ยง เช่น สัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือ 1 ครั้ง หรือ 2 สัปดาห์ครั้ง เพราะอาจไม่ทราบว่าติดหรือไม่ เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่มีอาการ

2.มาตรการการแพทย์ มีระบบสายด่วนประสานผู้ติดเชื้อ เน้นการดูแลที่บ้าน Home Isolation เพราะโรคไม่ร้ายแรง อาการน้อยมากเกือบร้อยละ 90 และเรามีระบบการติดตาม คอยดูแลจากโรงพยาบาล โดยให้ติดต่อ สายด่วน 1330 หรือสายด่วนในระดับจังหวัด ทั้งนี้ หากดูแลที่บ้านไม่ได้ สามารถดูแลผ่านศูนย์ระดับชุมชน Community Isolation หากอาการรุนแรงขึ้นก็จะส่งโรงพยาบาล

3.มาตรการสังคม ประชาชนใช้การป้องกันตัวเองขั้นสูงสุด หรือ Universal Prevention สถานบริการปลอดความเสี่ยงโควิด โดยการทำ Covid Free Setting ซึ่งทั้งผู้ให้บริการ และผู้รับบริการต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม ที่สำคัญขอให้ชะลอการเดินทางช่วงนี้​ และ 4.มาตรการสนับสนุน เรื่องค่าบริการรักษาพยาบาล ค่าตรวจต่างๆ รัฐบาลสนับสนุนเต็มที่

“ขอประชาชนทุกภาคส่วนช่วยกันทำ VUCA ประกอบด้วย V- Vaccine, U-Universal Prevention, C- Covid-19 free setting และ A- ATK สำหรับชุดตรวจ ATK ที่มีการขาดแคลน ขณะนี้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้จัดหาและเตรียมไว้จำหน่ายสัปดาห์ละ 1 ล้านชุดเทสต์ ราคาชุดละ 35 บาท” นพ.เกียรติภูมิ ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โควิดกลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’  ขออย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้

เวลาผ่านไปโรคโควิดลดความรุนแรงลง โรคโควิดไม่น่ากลัวหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกลัวโรคโควิดมากเกินไป

สายการบิน 'ลุฟท์ฮันซา' ต้องจ่ายค่าปรับกรณีเลือกปฏิบัติต่อผู้โดยสารชาวยิว

สายการบินลุฟท์ฮันซาต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 4 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา เหตุเพราะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดขอ

ไทยติดโควิดรอบสัปดาห์ 353 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 6 - 12 ตุลาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่