![](https://storage-wp.thaipost.net/2022/01/อนุทิน.jpg)
‘อนุทิน’ โล่ง ‘โอมิครอน’ ไม่รุนแรงเท่าเดลตา สั่ง ปลัดสธ. สถานการณ์ดีขึ้น พร้อมชง ศบค.ผ่อนคลายมาตรการให้มากและเร็วที่สุด ยันเตรียมวัคซีน-ยาต้านโควิดไว้พรั่งพร้อม
14 ม.ค. 2565 – ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นต้นมา ถึงแม้ว่าเรามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น เชื้อสายพันธุ์โอมิครอนเข้ามาระบาดในไทยแล้ว แต่การให้การรักษาพยาบาล ความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ รวมถึงผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือห้องไอซียูไม่ได้มีจำนวนมากขึ้น นอกจากนี้ผู้เสียชีวิตในแต่ละวันอยู่ในจำนวนที่เป็นขาลงไม่เกิน 20 รายต่อวันมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว ทำให้เรามีความมั่นใจได้ว่าสายพันธุ์โอมิครอนแม้ติดเชื้อได้ง่าย แต่ความรุนแรงยังไม่เท่ากับสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย)
“มาตรการต่างๆ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแนวทางที่ดีขึ้นแล้ว ผมขอยืนยันว่า ได้มอบนโยบายหารือกับทางปลัดกระทรวงสาธารณสุขอย่างชัดเจนว่า เมื่อสถานการณ์เป็นไปในแนวโน้มที่ดีขึ้นแล้ว กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งทำการเสนอให้กับ ศบค. ได้มีการผ่อนคลายมาตรการให้มากที่สุด และเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือถ้าเหตุที่เป็นอันตรายต่อประชาชนในภาพรวม กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งเสนอให้มีมาตรการเพื่อเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก” นายอนุทิน ระบุ
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ยืนยันว่ารัฐบาลได้มีนโยบายให้กระทรวงสาธารณสุข เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา ยอมรับว่าเราต่อสู้กับโควิด-19 เข้าปีที่ 3 แล้ว เพราะฉะนั้นทุกข้อมูลพยายามที่จะพัฒนาเพื่อให้มีความปลอดภัย นอกจากนี้อำนวยความสะดวกในทุกๆ ด้านเพื่อให้ประชาชนสามารถลดภาระต่างๆ ของชีวิตให้มากที่สุด สำหรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ขอให้ยึดถือข้อมูลทางกระทรวงสาธารณสุขได้แถลงให้กับประชาชนได้ทราบเป็นหลัก เพราะเป็นข้อมูลที่มีกรอง วิเคราะห์ และประเมินแล้ว ซึ่งจะมีความครบถ้วน ยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขไม่มีวันที่จะปรุงแต่งข้อมูล ตัวเลข เพียงเพื่อให้ประชาชนไม่เกิดความวิตกกังวล โดยเราไม่ได้ทำมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ในส่วนวัคซีนขณะนี้ได้ทำงานของเขาแล้ว และเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความปลอดภัย ไม่มีการสูญเสียซึ่งชีวิต เพราะฉะนั้นจากการสำรวจมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน วันนี้เราไปเข็มที่สามแล้ว ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรกขอให้มารับวัคซีน เดี๋ยวจะให้นโยบายไปเลยว่าผู้ที่ยังไม่ได้วัคซีนเข็มแรกไม่ต้องไปจอง สามารถวอล์คอินได้เลย เพื่อสร้างแรงจูงใจ เพราะเราเชื่อว่าผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนอาจมีปัญหาในการเข้าถึง สำหรับผู้ที่ปฏิเสธวัคซีน ตนขอความกรุณาว่าอย่าปฏิเสธวัคซีน เพราะวัคซีนทุกชนิดที่กระทรวงสาธารณสุขได้จัดหามา เป็นวัคซีนที่มีมาตรฐานในการป้องกันการติดเชื้อ การเจ็บป่วยหนักรวมถึงเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ เด็กอายุ 5-12 ปี ขอให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานมาเริ่มฉีดวัคซีนได้ เราได้รับการแจ้งจากผู้ผลิตวัคซีนไฟเซอร์แล้วว่าสามารถฉีดให้กับเด็กอายุ 5-12 ปีได้ ซึ่งเราจะทำการลดช่วงอายุลงไปจาก 12 ปีเป็น 5 ปี ซึ่งจะช่วยป้องกันในการแพร่ระบาด ของเชื้อได้มาก โดยภายในต้นเดือน ก.พ.เราจะมีวัคซีนไฟเซอร์ที่ขึ้นทะเบียน สำหรับฉีดให้กับเด็กอายุ 5-12 ปี มากเพียงพอครอบคลุม เด็กทุกคนจำนวนเด็กทุกคน ไม่ขาดแน่นอน
นอกจากนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำลังเร่งพิจารณา โดยเราได้รับการยืนขอเพิ่มการจดทะเบียนของวัคซีนซิโนแวคที่จะครอบคลุมเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไปเช่นกัน ถ้าเอกสารเรียบร้อยทาง อย. ได้พิจารณาแล้วมีความปลอดภัยที่เป็นที่ยอมรับของสากล เราก็พร้อมสั่งซื้อเข้ามาเพื่อให้มีความเพียงพอมากที่สุดสำหรับทุกช่วงอายุ
สำหรับเรื่องเวชภัณฑ์ ทางองค์การเภสัชกรรม ได้มีการหารือกับกระทรวงสาธารณสุขว่า เราจะไม่ให้มีการขาดแคลนของเวชภัณฑ์โดยเฉพาะยารักษาโรคโควิด-19 เช่นยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้จัดหาไว้จำนวนมากเพียงพอที่เราจะทำให้เกิดความมั่นใจว่ายาไม่ขาดแน่นอน นอกจากนี้ยังสั่งซื้อและขึ้นทะเบียนยาตระกูลฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งจะผลิตจากสารตั้งต้น โดยองค์การเภสัชกรรมได้เตรียมสารตั้งต้นเพื่อที่จะผลิตเองสำรองไว้ รวมทั้งได้สำรองยาโมลนูพิราเวีย แพกโลวิด โดยเราจะต้องเก็บยาหลายประเภทเพื่อความเหมาะสมสำหรับใช้กับผู้ป่วย อีกทั้งยาโมลนูพิราเวียร์ ทางองค์การเภสัชกรรมมีแผนที่จะร่วมพัฒนากับสถาบันการแพทย์จุฬาภรณ์ โดยจะมีการเสนอตั้งคณะกรรมการพิจาณาทำการวิจัยและผลิตสารตั้งต้นสำรองไว้ในอนาคต
“ยืนยันว่าเราไม่ได้มีความประมาท หรือลดหย่อนการทำงาน เราเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา สิ่งที่เราเตรียมไว้ถ้ามันจะต้องเก้อก็จะเป็นสิ่งที่ดี” นายอนุทิน ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สธ.แนะนำ กดจุดบรรเทาอาการ ‘จาม-ไอ-คัดจมูก’ จากโรคภูมิแพ้
แนะนำ 4 จุดช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ จุดที่ช่วยรักษาและป้องกันอาการจาม ไอ หรือ คัดจมูกจากโรคภูมิแพ้ได้
โควิด-19 รายสัปดาห์ ป่วยนอนโรงพยาบาลทะลุหลักพัน เสียชีวิต 3 ราย
ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานเกาะติดยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 14 - 20 กรกฎาคม 2567
มท. จ่อคลอดประกาศ 'ฟรีวีซ่า' 93 ประเทศ เริ่ม 15 ก.ค.
'โฆษก มท.' เผยมหาดไทยเตรียมออกประกาศยกเว้นวีซ่า 60 วัน 93 ประเทศ เริ่ม 15 ก.ค. 67 พร้อมปรับปรุงแนวทางตรวจลงตราให้ยืดหยุ่น หนุนท่องเที่ยวไทย
'ทนายอั๋น' ขู่ กกต. ฝืนประกาศรับรอง สว. เจอฟ้อง 157 ทุกจังหวัดแน่
'ทนายอั๋น' ร้อง กกต. ขยายผล สส.ขอนแก่น นัดกินข้าวผู้สมัคร สว. เตือนฝืนประกาศรับรองผล เจอฟ้อง ม.157 กราวรูดทุกจังหวัด
ไทยติดโควิดใหม่รอบสัปดาห์ 1,377 ราย ดับเพิ่ม 11 คน
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 30 มิ.ย. - 6 ก.ค. 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่