ยังไม่น่าห่วง 'นายกฯ' เผยโควิดระบาดในลักษณะคลัสเตอร์เท่านั้น

“นายกฯ” เผยแม้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แต่เป็นการระบาดในลักษณะคลัสเตอร์เท่านั้น ขอทุกฝ่ายยึดมาตรการอย่างเคร่งครัด

9 ม.ค. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า​ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข รองรับจำนวนผู้ติดเชื้อที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 8,511 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 7,942 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 199 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 20 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 350 ราย ผู้เสียชีวิต 12 ราย ผู้ที่กำลังรักษาตัว 53,858 ราย และมียอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 2,605 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 จำนวน 2,240,687 ราย จำนวนผู้ที่หายป่วยสะสมจำนวน 2,166,441 ราย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาล โดย ศบค. ได้ยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยได้ยกระดับการเตือนภัยจากระดับที่ 3 เป็นระดับที่ 4 ซึ่งกำชับให้ประชาชนทุกคน งดรับประทานร่วมกัน งดการดื่มสุราในร้าน งดเข้าสถานที่เสี่ยงทุกประเภท เลี่ยงเข้าใกล้ผู้อื่นนอกบ้าน งดร่วมกิจกรรมกลุ่ม ลดการใช้โดยสารขนส่งสาธารณะทุกประเภท รวมถึงงดไปต่างประเทศ และหากจะเดินทางเข้าประเทศก็จำเป็นต้องกักตัว ขณะเดียวกันได้ยกระดับพื้นที่จังหวัดต่างๆ เป็นพื้นที่ควบคุม (พื้นที่สีส้ม) ทั้งประเทศรวมทั้งสิ้น 69 จังหวัด ในส่วนของพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 8 จังหวัด (พื้นที่สีฟ้า) และนำร่องบางพื้นที่ 18 จังหวัด ให้คงไว้ตามเดิม โดยจะเริ่มบังคับใช้ในวันนี้ 9 มกราคม 2565 นี้ สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างจังหวัด สามารถเดินทางได้ปกติ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ในส่วนของการลงทะเบียนเข้าประเทศในรูปแบบ Test and Go ได้มีการพิจารณาให้ระงับการลงทะเบียนออกไปก่อน โดยจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งในภายหลัง สำหรับ ผู้ที่ได้รับการอนุมัติให้เดินทางเข้าราชอาณาจักรแล้ว สามารถเดินทางได้ แต่ต้องเป็นไปตามที่มาตรการกำหนดและตามวันเวลาที่ขออนุมัติ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

“นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ ถึงแม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นแต่ยังเป็นการระบาดในลักษณะคลัสเตอร์เท่านั้น ยืนยัน รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ทั้งระบบการรับแจ้งเหตุ (Call Center) การคัดกรอง/คัดแยกผู้ป่วย การรักษาตามระดับความรุนแรงของอาการ และการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมของ โรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนาม CI/HI /Hospitel อย่างไรก็ตามประชาชนทุกคนจำเป็นต้องป้องกันตนเองอย่างเข้มงวด สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ทดสอบตนเองด้วย ATK เมื่อเดินทางไปสถานที่เสี่ยงหรือเมื่อมีอาการป่วย ที่สำคัญจะต้องฉีดวัคซีนตามที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขแนะนำ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และลดการแพร่ระบาดไปสู่ผู้อื่น” โฆษกประจำสำนักนายกรัญมนตรี กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธนกร' จี้กวาดล้างแก๊งลวงผู้สูงวัย-ปชช. หลอกกดลิงก์รับเงินหมื่น หลังรัฐเตรียมแจกเฟส 2

'ธนกร' เรียกร้อง รัฐบาล-ตร. เร่งกวาดล้างปราบแก๊งลวงผู้สูงวัย-ปชช. ระบาดหนัก หลอกกดลิงก์รับเงินหมื่น หลัง รัฐเตรียมแจกเฟส 2 ฝาก ดีอีล้อมคอก เตือนภัยให้คนรู้เท่าทัน หยุดกระบวนการไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพอีก

'ธนกร' หนุนรัฐบาลเร่งปราบนอมินี ธุรกิจอำพรางคนต่างด้าว แนะตั้ง KPI ประกบเห็นผลชัดใน 3 เดือน

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า หลังจากมีคนต่างชาติลักลอบเข้ามา ประกอบธุรกิจต่างๆทั้งการขายสินค้าโรงงาน ร้านอาหาร และธุรกิจอื่นๆ หลายย่านในกรุงเทพฯ

'ธนกร' จี้ กกต. คุมเข้มเลือกตั้งนายก อบจ. ปูด 'เมืองคอน' เริ่มซื้อเสียง

'ธนกร' จี้ กกต. คุมเข้มหาเสียงเลือกตั้ง อบจ. หลายจังหวัด แนะทำงานเชิงรุก จับตา 'เมืองคอน' สู้ดุเดือด ชาวบ้านแจ้งเรียกเก็บบัตรประชาชนหลายพื้นที่ ขอตรวจสอบเข้มโปร่งใส

'ธนกร' หนุนถอยคนละก้าว ใช้เกณฑ์เสียงข้างมากชั้นครึ่ง สส.-สว.ถกร่างประชามติ

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า หลังการประชุมทั้งกมธ. สส.และสว. ที่ยังมีความคิดเห็นแตกต่างกันเรื่องสว.ยืนกรานทำประชามติ 2 ชั้น แต่สส.เห็นควรปรับให้กึ่งกลางเหลือแค่ชั้นครึ่ง

เปิดข้อมูล ‘ไวรัสโควิด’ สร้างได้ในห้องทดลอง มีจดสิทธิบัตรตั้งแต่ปี 2018

การสร้างไวรัสใหม่ชนิดนี้จะสามารถครอบคลุมไวรัสที่จะแพร่และเกิดโรคระบาดในมนุษย์ได้ทั้งสิ้น และสามารถที่จะสร้างวัคซีนให้มนุษย์ก่อนได้