ศบค. ไม่ห้ามฉลองปีใหม่ แนะตรวจ ATK เข้าแอปฯ 'ไทยเซฟไทย' ประเมินเสี่ยงโควิด

27 ธ.ค.2564 - เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า สำหรับตัวเลขผู้เดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศตั้งแต่วันที่ 1 – 26 ธ.ค. มีทั้งสิ้น 240,277 ราย 5 ชาติอันดับแรก ได้แก่ เยอรมนี 20,620 ราย พบผู้ติดเชื้อ 35 ราย สหราชอาณาจักร 16,470 ราย ติดเชื้อ 131 ราย รัสเซีย 12,297 ราย ติดเชื้อ 43 ราย สิงคโปร์ 9,528 ราย ติดเชื้อ 3 ราย และสหรัฐอเมริกา 9,357 ราย ติดเชื้อ 101 ราย

เมื่อถามถึงการปรับมาตรการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังพบสายพันธุ์โอมิครอน ที่ระบาดรวดเร็วและเริ่มพบเชื้อในประเทศมากขึ้น พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ตอนนี้มีหลายจังหวัดที่เข้มงวดกวดขันเรื่องการจัดงานเทศกาลปีใหม่ โดยที่ประชุมศบค.เน้นย้ำให้คำนึงถึงประชาชนที่ต้องการดำเนินชีวิตตามปกติ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ไม่ใช่แค่การฉลอง แต่มีหลายครอบครัวต้องการเดินทางกลับไปดูแลผู้สูงอายุ ที่ไม่ได้เจอกันมานาน ดังนั้น เบื้องต้นยังไม่มีมาตรการห้ามการจัดเทศกาลปีใหม่ แต่ขอให้แต่ละจังหวัด โดยเฉพาะคณะกรรมการโรคติดต่อกทม.คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เข้มงวดมาตรการ

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข มีแผนและคาดการณ์สถานการณ์ในช่วงปีใหม่ ในช่วงบ่ายวันเดียวกันจะมีการนำเสนอว่าหากเราร่วมมือระมัดระวังในช่วงปีใหม่อย่างเต็มที่ ภาคประชาชนปกป้องตัวเอง โดยสวมหน้ากากอนามัย ส่วนผู้ประกอบการร่วมมือเข้มงวดในมาตรการ อาจจะทำให้เราสามารถผ่านปีใหม่ไปได้ เหมือนช่วงเทศกาลลอยกระทง

ทั้งนี้ประชาชนสามารถประเมินตัวเอง ก่อนร่วมงานหรือกิจกรรมใดๆผ่านทางเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่น “ไทยเซฟไทย” ของกรมอนามัย จะมีการซักประวัติว่ามีประวัติเสี่ยง หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง พบปะอาชีพเสี่ยงหรือไม่ จึงขอความร่วมมือหากจะเที่ยวปีใหม่อย่างปลอดภัย ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน

นอกจากนั้น กระทรวงสาธารณสุข ยังประกาศให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดหลังปีใหม่ เตรียมพร้อมระบบการกักตัวที่บ้านหรือศูนย์พักคอยชุมชน พร้อมฝากสถานประกอบการ โรงงาน ให้จัดสัดส่วนพื้นที่กักกันในบริษัทสำหรับบุคคลที่เดินทางกลับช่วงปีใหม่ที่มีประวัติเสี่ยงกับผู้ติดเชื้อ ให้สถานประกอบการและบริษัทเข้มงวดในการตรวจคัดกรอง โดยใช้เวลา 2 สัปดาห์หลังปีใหม่ ตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วย ที่ในระยะแรกอาจไม่แสดงอาการ หากค้นพบจะได้นำเข้าสู่ระบบการรักษาทันที เพื่อจะได้ไม่แพร่เชื้อกระจายเป็นวงกว้าง

“นายกฯย้ำให้การเที่ยวปีใหม่ในกลุ่มเล็ก หรือการสังสรรค์ในครอบครัว เพื่อนสนิทสถานที่ทำงาน ให้ตรวจเอทีเค ทั้งผู้จัดและผู้ร่วมงาน จะทำให้ยอดผู้ติดเชื้อหรือเสียชีวิตไม่เพิ่มมาก จนถึงขั้นที่ระบบสาธารณสุขดูแลได้ลำบาก” พญ.อภิสมัย กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอยง' ชี้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่ไวรัสยังอยู่ต่อไป

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 5 ปี โควิด 19 กาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน

ย้อนดู 5 ปี 'โควิด 19' ความสับสนของข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬา โพสต์เฟซบุ๊กว่า

โควิดกลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’  ขออย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้

เวลาผ่านไปโรคโควิดลดความรุนแรงลง โรคโควิดไม่น่ากลัวหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกลัวโรคโควิดมากเกินไป