'นพ.ธีระ' ยกเมืองผู้ดีเป็นตัวอย่างเตือนสติไทยรับมือโอมิครอน

'หมอธีระ' ชี้ 'โอมิครอน' อาละวาดหนัก ทำให้ทั่วโลกติดเชื้อไปแล้ว 272 ล้านคน ในลอนดอนยอดแซงเดลตาไปแล้ว แนะไทยดูเป็นตัวอย่างรับหาแนวทางรองรับการระบาด

16 ธ.ค.2564 - รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กถึงสถานการณ์โควิด -19 ประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ว่าทะลุ 272 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 675,182 คน ตายเพิ่ม 7,356 คน รวมแล้วติดไปรวม 272,413,971 คน เสียชีวิตรวม 5,344,552 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ อเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมัน และรัสเซีย จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 91.63 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 94.41

ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นมากถึงร้อยละ 61.67 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 56.79 เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก

...สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 3,370 คน สูงเป็นอันดับ 31 ของโลก หากรวม ATK อีก 1,348 คน ก็ขยับเป็นอันดับ 27 ของโลก ยอดรวม ATK จะเป็นอันดับ 5 ของเอเชีย

...อัพเดต Omicron ล่าสุด Omicron แซงเดลตาไปแล้วในกรุงลอนดอน โดยครองสัดส่วนการระบาดถึง 51.8% ในขณะที่เมืองอื่นๆ ของสหราชอาณาจักรก็มีการตรวจพบมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานจำนวนติดเชื้อใหม่ทำสถิติสูงถึง 78,610 คน สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการระบาดมาในรอบสองปี (เดิมสูงสุดวันที่ 8 มกราคม 2021 = 67,794 คน) ด้วยอัตราการแพร่ระบาดที่รวดเร็วกว่าทุกสายพันธุ์ที่เคยเจอมา ดังที่องค์การอนามัยโลกได้เตือน จำนวนผู้ป่วยย่อมต้องพุ่งสูงขึ้นและเข้ารับการดูแลรักษาในโรงพยาบาลมากขึ้น และคาดกันว่าจะเกินกว่าศักยภาพที่จะรองรับได้ แม้เรื่องความรุนแรงและการเสียชีวิตจะยังไม่ชัดเจนว่าจะน้อยกว่าเดลตาหรือไม่ก็ตาม

...งานวิจัยเกี่ยวกับการฉีดเข็มกระตุ้นโดยวัคซีน Moderna
Doria-Rose NA และทีมงานจาก NIH สหรัฐอเมริกาศึกษาโดยใช้ซีรัมจากคนที่ฉีดวัคซีน Moderna 2 เข็มมาแล้ว 4 สัปดาห์ นำมาทำการทดสอบ พบว่า Omicron ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่าสายพันธุ์ G 49-84 เท่า และดื้อกว่าสายพันธุ์เบตา 5.3-6.2 เท่า

ทั้งนี้ หลังฉีดเข็มกระตุ้น โดยใช้ Moderna (mRNA-1273) ขนาด 50 ไมโครกรัม (ขนาดครึ่งหนึ่งของปกติ) พบว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้มากขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาที่ภูมิคุ้มกันจากการฉีดเข็มกระตุ้น ว่าจะคงอยู่ได้นานเพียงใด คงต้องมีการศึกษาติดตามต่อไป

...สำหรับไทยเรา
บทเรียนจากอดีตที่ผ่านมาในระลอกสองและสามนั้น ช่วยให้เราเห็นว่า หากระบาดหนักอย่างรวดเร็ว จะส่งผลต่อระบบสาธารณสุขที่มี ทั้งในภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่ระบบการตรวจคัดกรองโรค ในเรื่องปริมาณการตรวจต่อวันที่จะทำได้จำกัด ไม่ทันความต้องการ รวมถึงการดูแลรักษา

ยิ่งในการระบาดของ Omicron ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก บางประเทศที่มีทรัพยากรมากกว่าเรา เช่น สหราชอาณาจักร ก็กำลังประสบปัญหาขาดแคลนชุดตรวจคัดกรองโรคแล้ว ดังนั้นจึงเป็นการดี หากเตรียมการรองรับเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ก่อนที่ Omicron จะปะทุขึ้นมา

สำหรับประชาชน ควรไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น หากเลือกได้ ควรใช้เป็น mRNA vaccines การใส่หน้ากากเสมอ เว้นระยะห่างจากคนอื่นเกินหนึ่งเมตร อย่างเป็นกิจวัตร จะช่วยเป็นเกราะป้องกันที่ดีให้ห่างไกลโควิด-19 ด้วยรักและห่วงใย

อ้างอิง
Doria-Rose NA et al. Booster of mRNA-1273 Vaccine Reduces SARS-CoV-2 Omicron Escape from Neutralizing Antibodies. medRxiv. 15 December 2021.