ศบค. ไฟเขียวจัดเคาท์ดาวน์ ดื่มฉลองได้ถึงตี 1 ย้ำงานใหญ่-คนหลักพันต้องยึดมาตรการภาครัฐ

13 ธ.ค.2564 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงภายหลังการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมศบค. เห็นชอบปรับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีพื้นที่สีเฉพาะสีส้มและสีเหลือง โดยให้บริโภคสุราในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 64 ถึง เวลา 01.00 น.ของวันที่ 1 ม.ค. 65 เฉพาะร้านที่เปิดโล่งและมีอากาศถ่ายเทสะดวก

โดยการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ดังกล่าว เป็นสัญลักษณ์ของการเปิดประเทศทำให้เห็นภาพการเคาท์ดาวน์ และต้องดำเนินการเคร่งครัดตามมาตรการป้องกันโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด คือโควิดฟรีเซ็ตติ้ง  มาตรการป้องกันตัวแบบครอบจักรวาล เพราะสิ่งที่เราได้รับความสะดวกสบายนั้นจะต้องมีการควบคุมกำกับได้เป็นอย่างดี ทั้งผู้ประกอบการและผู้เข้าร่วมใช้บริการ

โดยกระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการ ความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ คือประชาชนที่เข้าร่วมงานจะต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ สถานประกอบการจะต้องตรวจการรับวัคซีนก่อนเข้าใช้บริการ ประชาชนต้องดำเนินมาตรการป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด กิจกรรมกิจการ ต้องประเมินตัวเองผ่าน มาตรฐานความปลอดภัยป้องกันโรค

และที่สำคัญต้องให้เข้าออกสถานบริการนั้นเพียงทางเดียว สำหรับมาตรการกำกับควบคุมนั้น ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กำหนดให้มีทีมควบคุม กำกับ เฝ้าระวัง ให้เป็นไปตามมาตรฐาน และสื่อสารให้ประชาชน ร่วมกันเฝ้าระวังในชุมชนและแจ้งเบาะแสแก่หน่วยงานรัฐ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับการจัดงานที่มีผู้ร่วมงานตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป ผู้จัดงานพนักงาน นักดนตรี จะต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ให้มีการตรวจคัดกรอง ด้วย ATK ภายใน 72 ชั่วโมง ผู้เข้าร่วมงานต้องลงทะเบียนและแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และมีผลตรวจ ATK เป็นลบ และการจัดงานต้องจัดในพื้นที่ที่ควบคุมการเข้าออกได้ โดยไม่ให้เกิดความแออัด จัดให้มีการจองตั๋วหรือลงทะเบียนล่วงหน้า กำหนดช่องทางเข้าออกเพียงจุดเดียว และมีระบบคิว จำกัดผู้เข้าร่วมงานหนึ่งคนต่อ4ตารางเมตร กำหนดโซนผู้เข้าร่วมงาน ระบุที่นั่งชัดเจน เน้นการทำความสะอาดทุกพื้นที่ พื้นผิว ทุก 1-2 ชั่วโมง กรณีมีการแสดงควรจัดระยะห่างระหว่างเวที และผู้ชมอย่างน้อย 5 เมตร

โดยนายกฯเน้นย้ำในศบค.ว่า มาตรการที่ภาครัฐออกมา ภาคเอกชนซึ่งเป็นผู้จัดงานต้องให้ความสำคัญ และขอให้ความสำคัญเรื่องนี้ในการที่จะเปิดกิจการ กิจกรรมต่างๆ ก็จะต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบร่วมกันด้วย เพราะผู้จัดงานเป็นผู้ที่สามารถกำกับ กิจการ กิจกรรมภายในงานได้ดังนั้นต้องศึกษาและทำความเข้าใจในมาตรการปฏิบัติเป็นอย่างดี

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ดังนั้นผู้ที่จะเข้าร่วมงานรื่นเริงต่างๆ ฉีดวัคซีนหนึ่งครั้งไม่เพียงพออย่างน้อยต้อง 2 เข็มตามเกณฑ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ระบุว่าระยะเวลานี้ ยังไม่ถึงช่วงปีใหม่จึงยังมีเวลารณรงค์ ให้ผู้ที่ได้รับวัคซีน 1 เข็ม ให้ไปรับการฉีดเข็มสอง เพื่อที่จะเข้าร่วมงานรื่นเริงเหล่านี้ได้ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โควิดกลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’  ขออย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้

เวลาผ่านไปโรคโควิดลดความรุนแรงลง โรคโควิดไม่น่ากลัวหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกลัวโรคโควิดมากเกินไป

สายการบิน 'ลุฟท์ฮันซา' ต้องจ่ายค่าปรับกรณีเลือกปฏิบัติต่อผู้โดยสารชาวยิว

สายการบินลุฟท์ฮันซาต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 4 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา เหตุเพราะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดขอ

ไทยติดโควิดรอบสัปดาห์ 353 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 6 - 12 ตุลาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่