'โอมิครอน' ลามแล้ว 65 ประเทศ

11 ธ.ค.2564 - ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,079 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 4,044 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 3,974 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 70 ราย มาจากเรือนจำ 19 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 16 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 7,302 ราย อยู่ระหว่างรักษา 53,455 ราย

อาการหนัก 1,115 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 315 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 39 ราย เป็นชาย 16 ราย หญิง 23 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 27 ราย มีโรคเรื้อรัง 10 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดใน จ.เชียงใหม่ 5 รายขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,164,859 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,090,253 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 21,151 ราย

ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. เพิ่มเติม 355,567 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ทั้งสิ้น 97,177,327 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมียอดผู้ติดเชื้อสะสม 269,420,435 ราย เสียชีวิตสะสม 5,311,481 ราย

สำหรับการพบเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนทั่วโลก ขณะนี้มี 65 ประเทศ

ขณะที่ 10 อันดับจังหวัดผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด กทม. 664 บาท นครศรีธรรมราช 371 ราย สงขลา 226 ราย สุราษฎร์ธานี 146 ราย ชลบุรี 140 ราย สมุทรปราการ 130 ราย ปัตตานี 107 ราย เชียงใหม่ 88 ราย ชุมพร 82 ราย และตรัง 78 ราย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดข้อมูล ‘ไวรัสโควิด’ สร้างได้ในห้องทดลอง มีจดสิทธิบัตรตั้งแต่ปี 2018

การสร้างไวรัสใหม่ชนิดนี้จะสามารถครอบคลุมไวรัสที่จะแพร่และเกิดโรคระบาดในมนุษย์ได้ทั้งสิ้น และสามารถที่จะสร้างวัคซีนให้มนุษย์ก่อนได้

ศูนย์จีโนมฯ จับตาโอมิครอน KP.2.3/XEC ลูกผสมพันธุ์ใหม่ แพร่เร็วกว่าเดิม 2 เท่า

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า โอมิครอน KP.2.3/XEC : ลูกผสมสายพันธุ์ใหม่แพร่เร็วกว่าเดิม 2 เท่า