6 ธ.ค.2564 - ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า Omicron น่าจะระบาดก่อนที่จะมีรายงานที่แอฟริกามาซักพัก ตอนนี้หลายๆประเทศทั่วโลกเริ่มรายงานพบเชื้อไวรัสนี้ คาดว่ามีโอกาสน่าจะเป็นสายพันธุ์หลักแทนเดลต้า
ส่วนการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งของไวรัสนี้สามารถแบ่งเป็นตำแหน่งที่รู้จัก ได้แก่การกลายพันธุ์ที่ทำให้จับกับเซลล์คนง่ายขึ้น การกลายพันธุ์ที่อาจจะลดประสิทธิภาพวัคซีน และที่ยังไม่รู้ว่าตำแหน่งการกลายพันธุ์มีผลต่อไวรัสอย่างไรบ้าง ซึ่งต้องรอการศึกษาจากไวรัสในห้องทดลอง มีข้อมูลว่าเชื้อนี้อาจจะทำให้เกิดการติดซ้ำได้ หากเคยเป็นโควิดมาก่อน แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าเชื้อนี้ทำให้เกิดโรคที่รุนแรงกว่าเดลต้า (แนวโน้มเชื่อว่าเชื้อน่าจะอ่อนแรงเพื่อแลกกับคุณสมบัติที่ติดได้ง่ายขึ้น แต่ยังต้องรอข้อมูลยืนยัน)
สำหรับในขณะนี้เราควรจะทำอย่างไร ก็คงทำเหมือนกับหลายๆประเทศที่พยายามดักเคสแล้วก็กักตัวไว้ ไม่ให้กระจายอย่างรวดเร็ว เพื่อซื้อเวลาสำหรับการเตรียมฉีดวัคซีนให้ภูมิสูงขึ้นพอ (บางประเทศ ขยับเข็มกระตุ้นให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง) ช่องทางที่น่ากังวลคือการเข้ามาจากชายแดน คนเดินข้ามไปมา ถ้าเริ่มมีการระบาดรอบบ้านเราซึ่งคุมได้ยาก
ถึงแม้ว่าเรายังไม่มีวัคซีนที่จำเพาะสำหรับสายพันธุ์นี้ แต่ข้อมูลจากหลายๆการศึกษาพบว่าถ้าระดับของภูมิสูงพอก็อาจจะยับยั้งไวรัสได้ จากรูปที่แสดงการศึกษาของศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิกและมหาวิทยาลัย Duke ร่วมกับ National University of Singapore (Duke-NUS) ที่กำลังรอตีพิมพ์ ได้วัดภูมิในคนไทยที่ได้รับ sinovac 2 เข็ม แล้วกระตุ้นด้วย แอสตร้า พบว่าที่ 7 วันหลังฉีดภูมิที่ขึ้นสามารถ neutralize ไวรัสสายพันธุ์อื่นได้หลายสายพันธุ์เช่นเบต้า แกมม่าที่ดื้อวัคซีนมากๆ แม้ว่าไม่ใช่วัคซีนที่จำเพาะต่อสายพันธุ์นั้นๆก็ตาม มีบางคนภูมิสามารถยับยั้งไวรัส SARS CoV-1 และ coronavirus สายพันธุ์ที่อยู่ในค้างคาวได้ด้วย ตอนนี้รอทำ multiplex testของ Omicron เพิ่มเติม (การศึกษานี้ใช้กลุ่ม Sinovac ตามด้วย Aztra ตามอาสาสมัครที่ยินดีเข้าร่วมการศึกษา แต่ถ้าวัคซีนอื่นที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีเช่น mRNA ก็น่าได้ผลเช่นเดียวกัน)
คำแนะนำของหลายๆประเทศขณะนี้คือยังย้ำความสำคัญของการฉีดวัคซีน ทำให้ภูมิคุ้มกันสูงพอ เพื่อลดอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิต
ส่วนการมุมของการรักษา เนื่องจากการกลายพันธุ์ส่วนใหญ่อยู่ด้านนอก แต่ยาที่ออกฤทธิ์ต่อส่วนอื่นของไวรัสเช่น Molnupiravir Paxlovid Remdesivir ก็น่าจะยังใช้ได้อยู่
ตื่นเต้นได้ว่ามี Omicron แล้ว แต่อย่าตระหนก
Keep Calm and Get a Booster กัน
ข้อมูลวันที่ 6 ธค 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นักไวรัสวิทยา' ไม่ฟันธง โควิด XBB.1.16 เป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดอาการตาแดง มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ
'นักไวรัสวิทยา'ไม่ฟันธง โควิด XBB.1.16 เป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดอาการตาแดง มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ
ข่าวดี! วัคซีนเข็มกระตุ้น 2 สายพันธุ์ลดป่วยและตายเห็นผลชะงัก
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาฯ บอกข่าวดีวัคซีนเข็มกระตุ้น 2 สายพันธุ์ลดป่วยและตายจากการติดเชื้อเห็นผลชัดเจน หลังผลวิจัยในอิสราเอลที่ฉีดถึง 6 แสนคนลดอัตรานอน รพ.และตายถึงกว่า 80%
‘หมอธีระ’ เตือนสายพันธุ์ ‘โอไมครอน’ แตกหน่อต่อยอดไปมาก
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก
กลุ่มเสี่ยงระวัง! WHO เผยยุโรปเข้าสู่ 'โควิดระลอกใหม่' แพร่กระจายพร้อมไข้หวัดใหญ่
ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัส และผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์เฟซบุ๊ก