ศบค.เผยยอดฉีดวัคซีน 94 ล้านโดส ห่วงกลุ่มเปราะบาง 12 จังหวัด ฉีดไม่ถึงร้อยละ 60 ย้ำ เข้มมาตรการป้องกันตัวเอง แบบครอบจักรวาล
3 ธ.ค.2564-ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษกศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า สำหรับยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 527,092 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ทั้งสิ้น 94,280,248 โดส ขณะนี้ถือว่าเรามีวัคซีนเพียงพอ ขอให้ประชาชนเดินทางเข้าไปฉีดวัคซีน ตอนนี้เรามีวัคซีนหลากหลายยี่ห้อและมีสูตรฉีดวัคซีนหลายแบบ ขอให้ประชาชนศึกระยะห่างระหว่างการฉีดให้ดี
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ฉีดวัคซีนที่ยังต้องจับตาอยู่คือ กลุ่มผู้มีอายุเกิน 60 ปี และมีโรคประจำตัว ถือเป็นเป้าหมายหลัก โดยกระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าจะฉีดกลุ่มนี้ให้ได้ร้อยละ 80 หากไปดูรายจังหวัดพบว่ามีถึง 12 จังหวัดที่ยังฉีดคนกลุ่มไม่ถึงร้อยละ 60 ได้แก่ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา แม่ฮ่องสอน นครนายก ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี และขอนแก่น มีจังหวัดที่ฉีดเกินร้อยละ 80 เพียง 11 จังหวัด คือ ปทุมธานี ลำปาง นครพนม บึงกาฬ สกลนคร เชียงใหม่ กทม. สมุทรปราการ อุดรธานี บุรีรัมย์ และสุราษฎร์ธานี ขณะที่กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวระยะที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. ที่ยังต้องเร่งฉีด ได้แก่ กาญจนบุรี ขอนแก่น ซึ่งยังฉีดได้ไม่ถึงร้อยละ 60 ส่วน จ.พระนครศรีอยุธยา จันทบุรี สุรินทร์ ยังฉีดได้ไม่ถึงร้อยละ 70 รวมถึงพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวระยะแรก ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ประกอบด้วย เพชรบุรี ตราด ระยอง ก็ต้องเร่งฉีดด้วยเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันยังฉีดวัคซีนให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้ไม่ถึงร้อยละ 80
พญ.สุมณี กล่าวว่า ช่วงเดือน ธ.ค.เป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่เทศกาลและฤดูกาลท่องเที่ยวในทุกภาคของประเทศไทย และขณะนี้อยู่ในช่วงเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้ามา ขณะเดียวกัน มีการท่องเที่ยวของคนไทยด้วยกันเองมากขึ้น ทางกระทรวงสาธารณสุขและศบค.ชุดเล็ก ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ตั้งแต่เจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการทุกประเภทให้เปิดกิจการภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย ทางสาธารณสุขไม่ว่าจะเป็น SHA, SHAพลัส, ไทยสต็อปโควิด, ไทยสต็อปโควิด 2 พลัส, โควิดฟรีเซ็ตติ้ง ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม ยังคงต้องเคร่งครัดมาตรการป้องกันตัวอย่างสูงสุด เคร่งครัดมาตรการป้องกันตัวส่วนบุคคลแบบครอบจักรวาล ไม่ว่าจะไปใช้บริการหรือไปท่องเที่ยวที่ไหนก็ตาม เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า 2 ปีที่ผ่านมาที่เราเจอกับ โควิด-19 มาตรการส่วนบุคคลเหล่านี้เป็นการป้องกันการติดเชื้อ และเป็นมาตรการที่ทำให้ลดการแพร่ระบาดของเชื้อได้ และถ้าเราร่วมมือกันไปรับการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด ครบโดส เราจะมีภูมิคุ้มกันที่ต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น ลดการป่วยหนัก ลดการเสียชีวิตได้ เนื่องจากเชื้อมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา แต่ถ้าเราทุกคนร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล และปฏิบัติตามมาตรการทางสังคมอย่างเคร่งครัดจะทำให้เดือน ธ.ค.เป็นเดือนที่เราใช้ชีวิตตามแนววิถีใหม่ได้อย่างราบรื่น และเป็นเดือนที่เป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุขทุกคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บ้านเดียวได้เงินหมื่น 9 คน รวมเกือบแสน เผยซื้อข้าวสารหอมมะลิเป็นสิ่งแรก
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่ อ.พล จ.ขอนแก่น หลังพบว่ามีผู้ที่ได้รับเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาทผ่านสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ครอบครัวเดียวเกือบ 100,000 บาท ตามสิทธิ์ที่ได้รับ
เทพไท หยัน แจกเงินหมื่น เหมือนไฟไหม้ฟาง ไม่เกิดพายุหมุน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" หัวข้อ "แจกเงินหมื่น เหมือนไฟไหม้ฟาง"
พีคตอนจบ! ลุงดีใจได้เงินหมื่น แวะก๊งเหล้าขาวเมาแอ๋ ตื่นมาหาเงินไม่เจอ โร่ขอตร.ช่วยเหลือ
ลุงชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ดีใจได้เงินหมื่นแวะก๊งเหล้าขาวเมาแอ๋จำอะไรไม่ได้ ตื่นมาอีกทีหาเงินที่เหลือไม่เจอ โร่แจ้ง ตร.โพสต์ช่วยประชาสัมพันธ์ใครพบเห็นให้นำส่งคืน
'อดีตสว.' เตือนแจกเงินหมื่นภาษีคนไทยทุกคนแบกหนี้ จี้ยกเลิกส่วนที่เหลือก่อนล้มละลาย
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.)โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า แจกเงินหมื่น #ภาษีของคนไทยทุกคน รัฐบาล สส นักการเมืองอย่าริฉวยเอาหน้า
ตำรวจฮึ่ม! จัดหนักเจ้าหนี้นอกระบบข่มขู่ 'กลุ่มเปราะบาง' หลังได้เงินหมื่นบาท
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปน.ตร. มีหนังสือคำสั่งวิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด่วนที่สุด
แจกเงินหมื่น 4.5 ล้านคนวันที่สองจบตั้งแต่ตี 4
'คลัง' เผยโอนเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 4.5 ล้านคน เรียบร้อยตั้งแต่ตี 4 วันนี้ ส่งเงินถึงมือกลุ่มเปราะบาง เพิ่มเม็ดเงินในระบบ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก