สธ.เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 เผยเข้าสู่สัปดาห์ที่3 ของปี 66 ผู้ติดเชื้อใหม่ยังลดลง สวนทางจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไหลเข้าไทยเพิ่มต่อเนื่อง นายกฯเชิญชวนประชาชนเข้ารับวัคซีน 'อนุทิน' ย้ำแผนเฝ้าระวังตามข้อแนะนำด้านวิชาการ
27 ม.ค. 2566 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันกำหนดแนวทางรองรับการเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภายหลังทางการประเทศจีนประกาศอนุญาตให้ชาวจีนเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 เป็นต้นมา กระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ได้มีการติดตามโควิด19 อย่างใกล้ชิด เพื่อมีข้อมูลนำไปสู่การบริหารจัดการที่เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ กรมควบคุมโรคได้รายงานข้อมูลล่าสุด ระบุให้เห็นว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด19 รายใหม่ ในประเทศยังคงปรับตัวลดลง สวนทางกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุถึงข้อมูลนักท่องเที่ยวล่าสุดว่าตั้งแต่วันที่ 1-21 ม.ค. 66 มีต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว 1,342,365 คน โดย 5 อันดับแรกได้แก่ นักท่องเที่ยวจากรัสเซีย(143,580คน) มาเลเซีย(138,737คน) เกาหลีใต้(111,522คน) อินเดีย(68,609คน) และ ลาว(56,517คน) ตามลำดับ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 15–21 ม.ค. 66 ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่3 ของปี 66 ในการายงานสถานการณ์โควิด19 พบว่า มีรายงานผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 627 ราย เฉลี่ยวันละ 90 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า(8-14ม.ค.) ที่มีผู้ป่วยใหม่ 969 คน เฉลี่ยวันละ 138 คน ขณะที่ผู้เสียชีวิตตลอดสัปดาห์อยู่ที่ 44 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่เสียชีวิต 65 ราย เฉพาะชาวต่างชาติทุกสัญชาติที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8-21 ม.ค. 2566 พบผู้ติดเชื้อ 8 คน โดยมีอาการต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 1 คน และที่เหลือส่วนใหญ่ไม่มีอาการ สัญชาติที่ตรวจพบเชื้อ อันดับ 1 คือ จีน 3 คน เมียนมา กัมพูชา ญี่ปุ่น อังกฤษและเกาหลีใต้ ประเทศละละ 1 คน และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเฝ้าติดตามสายพันธุ์ของโควิด19 ก็รายงานว่าสายพันธุ์ที่พบในไทยขณะนี้ ร้อยละ 86 คือนสายพันธุ์โอมิครอน BA.2.75 ส่วนที่เหลือเป็นสายพันธุ์อื่นที่เคยพบในต่างประเทศ
"แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด19 และผู้เสียชีวิตจะลดลง รัฐบาลยังคงสนับสนุนให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความห่วงใยและเชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มป้องกันโควิด19 เข็มกระตุ้น ณ สถานพยาบาลหรือจุดบริการวัคซีนใกล้บ้านเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และยังคงการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคเช่น สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์ หากมีไข้ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรสชาติให้ตรวจ ATK เพื่อคัดกรองและป้องกันการนำเชื้อไปสู่บุคคลใกล้ชิด ทางด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้เน้นย้ำกับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขให้ดำเนินตามข้อปฏิบัติเพื่อเฝ้าระวังโควิด19 ตามแนวทางของคณะกรรมการด้านวิชาการตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดยให้พิจารณาใช้มาตรการต่างๆ ต่อผู้เดินทางจากทุกประเทศโดยคำนึงถึงหลักการเท่าเทียม ตั้งบนพื้นฐานด้านวิชาการให้เกิดความสมดุลระหว่างการป้องกันควบคุมโรคกับผลต่อเศรษฐกิจและสังคมสามารถสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้" น.ส.ไตรศุลี กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อนุทิน’ ปลื้มโพลสะท้อน ปชช. ยก ‘มหาดไทย’ กระทรวง-รัฐมนตรี มีผลงานด้านสังคม
‘อนุทิน’ ขอบคุณประชาชนให้คะแนนมหาดไทยอันดับ 1 กระทรวงและรัฐมนตรีมีผลงานด้านสังคม เผยเป็นทั้งกำลังใจและแรงกระตุ้นให้ทำงานหนักขึ้นเพื่อประชาชนและประเทศชาติ
'อนุทิน' หารือ ผอ.สำนักงานสหประชาชาติยกระดับปราบยาเสพติด
'อนุทิน' หารือผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา ยกระดับการสร้างความมั่นคงชายแดน ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเข้มข้น
'อนุทิน' เป็นประธานพิธีส่งมอบประตูระบายน้ำคุ้งบางกระเจ้า
'อนุทิน' เป็นประธานพิธีส่งมอบประตูระบายน้ำคุ้งบางกระเจ้า เฉลิมพระเกียรติฯ เพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการน้ำ ดูแลพื้นที่เกษตรและการท่องเที่ยว
29พ.ย.'อนุทิน'ลงพื้นที่เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วม!
'อนุทิน' กำชับ ปภ. ระดมสรรพกำลังเครื่องจักร เจ้าหน้าที่พร้อมสนับสนุนบรรเทาอุทกภัยภาคใต้ 29 พ.ย. นี้ ลงพื้นที่เกาะติดสถานการณ์ ล่าสุดมีน้ำท่วมใน 7 จังหวัด กระทบประชาชน 136,219 ครัวเรือน
'อนุทิน' เปิดสัมมนาความปลอดภัยทางถนนหวังอุบัติเหตุเป็นศูนย์!
'อนุทิน' เปิดสัมมนาวิชาการระดับชาติ ความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 16 ย้ำความสำคัญ 'Situation awareness' ตื่นตัว ตระหนัก รับผิดชอบ ชี้ต้องทำอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์ เพราะหนึ่งชีวิตก็เป็นเกรดเอฟแล้ว
'อนุทิน' ปลื้มผลงานศูนย์ดำรงธรรมเข้าตาชาวบ้าน!
'อนุทิน' ชื่นชมการทำงาน 'ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย' หลังผลสำรวจนิด้าโพลเผยประชาชนให้ความเชื่อมั่นสูงสุดเป็นหน่วยงานช่วยเหลือเมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม เผยผลงานปี 67 ยุติเรื่องได้ถึง 99.43%