'ราชบัณฑิตยง' แนะนำ 5 ข้อใส่หน้ากากอนามัยยุคปัจจุบัน

'หมอยง' ตอกย้ำ 3 ปีโควิด-19 คนไทยมีภูมิต้านทานถึง 96% ความรุนแรงลดอย่างมาก เสนอแนะ 5 แนวทางในการสวมใส่หน้ากากอนามัย

11 ม.ค.2566 - ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และราชบัณฑิต โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “โควิด 19 เรื่องของหน้ากากอนามัย” ระบุว่า โรคโควิด 19 ครบ 3 ปีแล้ว ประชากรไทยติดเชื้อไปแล้วประมาณ 50 ล้านคน รวมทั้ง ฉีดวัคซีน 2 เข็มไปแล้ว ประมาณร้อยละ 80 ฉีด 3 เข็มประมาณร้อยละ 40 ทำให้ประชากรไทยตรวจพบภูมิต้านทานได้ถึงร้อยละ 96

ความรุนแรงของโรคลดลงอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการระบาดในปีแรก และโรคนี้กำลังเข้าสู่โรคประจำฤดูกาลที่ทุกคนจะต้องอยู่ร่วมกับไวรัสตัวนี้

เรื่องของการใส่หน้ากากอนามัย อยากจะขอแนะนำดังนี้

1.ในเด็กเล็ก รวมทั้งเด็กอนุบาลและประถม อาจไม่จำเป็นที่จะต้องใส่หน้ากากอนามัย ในโรงเรียน เด็กเล็กไม่สามารถที่จะใส่ได้แบบถูกวิธีตลอดเวลา ต้องมีการเรียนรู้ทั้งภาษาพูดและภาษาท่าทาง สิ่งสำคัญในการป้องกันในโรงเรียน คือการล้างมือที่ถูกต้อง ดูแลสุขอนามัย ความสะอาดและสถานที่ หมั่นทำความสะอาดและให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี ไม่สบายหรือป่วย ต้องไม่ไปโรงเรียน

2.เด็กโตหรือผู้ใหญ่ ที่ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ ควรใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อออกนอกบ้าน

3.ในคนที่สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ในที่โล่งแจ้ง อากาศถ่ายเทได้ดี เช่น สวนสาธารณะ ท้องถนน ชายทะเล ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่หน้ากากอนามัย และต่อไปเมื่อเข้าสู่โรคประจำฤดูกาลเต็มที่แล้ว ก็คงจะเน้น การใส่หน้ากากอนามัยในผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเป็นหลัก

4.ในสถานที่ปิดเช่นการเดินทางด้วยรถขนส่งมวลชน รถไฟฟ้า หรือสถานที่มีคนหมู่มาก ก็ควรใส่หน้ากากอนามัย

5.ในสภาวะปัจจุบัน การใส่หน้ากากอนามัยเป็นไปด้วยความสมัครใจ ทุกคนก็คงจะต้องประเมินความเสี่ยง และความเหมาะสม ในการใส่หน้ากากอนามัย เรากำลังจะเข้าสู่ภาวะปกติใหม่ต่อไป โดยก้าวเดินไปตามความเหมาะสม แบบมีเหตุผล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จุฬาฯ เดินหน้ายุทธศาสตร์ใหม่ สร้าง Siam Square ให้เป็นพื้นที่สำหรับคนไทยทุกคน รวมพลคนพิการโชว์พลังครั้งใหญ่ที่สุด!

อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำทีม PMCU (สำนักทรัพย์สินจุฬาฯ) และ มูลนิธิ Five for All เปิดงาน Siam Square Walking Street For All ครั้งแรก! บนพื้นที่ใจกลางสยามสแควร์ ให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับคนไทยทุกคน ทุกกลุ่ม