ศบค.แนะผู้ประกอบการเร่งขึ้นทะเบียนSHA+ เสนอทางเลือกลอยกระทงออนไลน์-กะละมังหลังบ้าน

ศบค.แนะผู้ประกอบการเร่งขึ้นทะเบียน SHA+ พร้อมรับเปิดประเทศ เสนอทางเลือกลอยกระทงออนไลน์-กะละมังหลังบ้าน เลี่ยงโควิด

19 พ.ย.2564-เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย ว่า ในที่ประชุม ศปก.ศบค.ได้มีการพูดถึงการเปิดสถานบันเทิง หรือสถานที่คล้าย หรือใกล้เคียงกับสถานบันเทิง โดย ศบค.ให้ความสำคัญทุกกิจการ กิจกรรม การชะลอไปเปิดวันที่ 16 ม.ค.65 เข้าใจว่าผู้ประกอบการผิดหวัง แต่เราจำเป็นต้องมองให้รอบด้าน รอบคอบ เห็นสมควรให้เปิดเมื่อพร้อม ซึ่งจากสถานการณ์การระบาด แม้จะยังทรงๆ และทิศทางค่อนข้างดีขึ้น แต่เรายังกดตัวเลขให้ต่ำลงกว่า 5 พันรายต่อวันไม่ได้ ขณะที่ผู้เสียชีวิตยังอยู่ในระดับ 50 รายต่อวัน อีกเหตุผลคือ สถานประกอบการประเภทนี้ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนขอรับการพิจารณายกระดับ SHA+ เพื่อรองรับการเปิดกิจการตามหลักวิถีใหม่ โดยเมื่อวันที่ 18 พ.ย. มีสถานประกอบการใน กทม.ได้รับมาตรฐาน SHA+ จำนวน 1,216 แห่ง ซึ่งปัจจุบัน กทม. มีสถานประกอบการที่ได้รับเครื่องหมาย SHA+ แล้ว 7,994 แห่ง มีทั้งร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สถานเสริมความงาม บริษัทท่องเที่ยว และร้านขายของที่ระลึก

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า การเปิดเมืองไม่ได้อยู่ที่ศบค.แต่อยู่ที่ความพร้อมของสถานประกอบการตามประกาศของสาธารณสุขที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งโลก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ทอดทิ้งกิจการ กิจกรรมใดไว้ข้างหลัง เราต้องผ่านไปด้วยกัน และยังมีคนไทยอีก 11 ล้านคน ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มที่หนึ่ง จึงขอให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้คนมาฉีดวัคซีน โดยเฉพาะจังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว

พญ.อภิสมัย กล่าวตอนท้ายว่า ขอฝากความเป็นห่วงในวันนี้ (19 พ.ย.) ที่เป็นวันลอยกระทง ขอความร่วมมือลอยกระทงออนไลน์ หรือลอยกะละมังหลังบ้าน แต่หากต้องไปร่วมงานก็ไปด้วยความระมัดระวัง ไม่ย่อหย่อนต่อมาตรการ