ทั่วโลกติดเชื้อโควิดรายใหม่ 2.5 แสนคน เสียชีวิตเพิ่ม 438 คน

20 พ.ย.2565-รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ “หมอธีระ” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 250,039 คน ตายเพิ่ม 438 คน รวมแล้วติดไป 642,804,841 คน เสียชีวิตรวม 6,625,357 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ไต้หวัน และฮ่องกง เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 17 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 94.22 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 84.93

อัพเดตความรู้ Long COVID  Venkataramani V และคณะจากประเทศเยอรมัน ได้สรุปความรู้วิชาการเกี่ยวกับปัญหาด้านความคิดความจำ (cognitive impairment) หลังจากติดเชื้อโรคโควิด-19 การศึกษาทางห้องปฏิบัติการในหนูที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยมีอาการน้อยนั้น พบว่าตรวจพบเกิดกระบวนการอักเสบในสมองตามมา ทั้งนี้กลุ่มที่มีปัญหาด้านความคิดความจำนั้นจะมีระดับ C-C motif chemokine 11 (CCL11) ที่สูงกว่ากลุ่มที่ไม่มีปัญหา ซึ่งจากความรู้ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์เดิมที่มีมาก่อน ทราบกันว่าสาร CCL11 นี้เกี่ยวข้องกับกระบวนการแก่/เสื่อมถอย (aging) ของเซลล์ และยับยั้นการสร้างเซลล์ประสาทใหม่ (neurogenesis)

ณ ปัจจุบัน ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบต่อสมองและระบบประสาทภายหลังจากติดเชื้อโรคโควิด-19 มีมากขึ้น โดยมีการศึกษาพยาธิสภาพ และกลไกในการเกิดความผิดปกติต่างๆ ทั้งในเรื่องความคิดความจำ สมาธิ รวมถึงโรคเรื้อรังที่ตามมา ทั้งหลอดเลือดสมอง ชัก และอื่นๆ

การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ หรือไม่ติดเชื้อซ้ำ ย่อมดีที่สุด ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท ลดละเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง สถานที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ ระหว่างการตะลอนนอกบ้าน ทำงาน เรียน ท่องเที่ยว หรือพบปะผู้คน จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มากระบาดขาขึ้นเช่นในปัจจุบัน พฤติกรรมส่วนตัวจะเป็นตัวกำหนดความเสี่ยงของแต่ละคน และความเสี่ยงนั้นไม่จบแค่ตัวเอง แต่นำพาไปสู่สมาชิกในครอบครัวและคนใกล้ชิดได้

อ้างอิง Venkataramani V et al. Cognitive Deficits in Long Covid-19. NEJM. 10 November 2022.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘หมอธีระ’ ข้องใจตัวเลขโควิด สัปดาห์ก่อนพุ่งอาทิตย์นี้ลดฮวบ ไม่ใช่เรื่องปกติ

สัปดาห์ก่อน ตัวเลขนอนรพ.พุ่งขึ้นกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านั้นถึง 78% แต่สัปดาห์ล่าสุดนี้ ลดลงฮวบฮาบจากสัปดาห์ก่อนถึง 57.7% ส่วนตัวคิดว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ควรต้อง explore