ซิโนแวคบริจาคจากจีน 1.5 ล้านโดสถึงไทยแล้ว สหรัฐส่งโมเดอร์นาขึ้นเครื่องสัปดาห์หน้า

‘อนุทิน’ รอ ศบค. เคาะยกเลิกตรวจ RT-PCR นักท่องเที่ยวต่างชาติ ชี้สถานการณ์โควิดค่อยๆ ดีขึ้น จีนบริจาคซิโนแวค 1.5 ล้านโดสถึงไทยแล้ว สหรัฐส่งโมเดอร์นาขึ้นเครื่องมาสัปดาห์หน้า

12 พ.ย. 2564 – เมื่อเวลา 09.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวก่อนการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ถึงแนวคิดจะยกเลิกการตรวจแบบ RT-PCR กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศ ว่า รอหารือในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ก่อน เราจะดูตามเหตุตามผล เห็นว่าต้นทางที่เขาจะต้องตรวจ RT-PCR ก่อนเราสามารถสอบทานและยืนยันได้ ที่สำคัญเอกสารการฉีดวัคซีนของผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไม่มีการปลอมแปลงได้ เราจึงจะหาวิธีอำนวยความสะดวกเพื่อให้เกิดความรวดเร็วที่สุด แต่เราต้องไม่ละทิ้งความปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้เปิดประเทศมาแล้ว 10 วัน มีจุดใดที่กระทรวงสาธารณสุขจะต้องอุดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ แต่ถ้าเรายังใช้มาตรการมาตรการ DMHTT และการป้องกันแบบครอบจักรวาล ที่คอยระมัดระวังตัวอย่างสูงสุดตลอดเวลาก็จะไม่มีปัญหา ทั้งนี้ ปัจจุบันนอกจากจะมีการวัคซีนครบแล้ว ยังมีการตรวจแบบ ATK ก่อนเข้างาน ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงไปได้มาก

เมื่อถามถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ดูเหมือนทรงตัว นายอนุทิน ย้อนถามว่า ไม่ดีหรือ พร้อมกับระบุว่า จะค่อยๆ ลดลง อย่าขึ้นพอแล้ว พยายามให้มันลดลง และถ้าสังเกตการณ์จำนวนผู้เสียชีวิตรายวัน เป็นกลุ่มเสี่ยง 607 ซึ่งเป็นผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคเรื้อรัง ยิ่งไปกว่านั้นมากกว่า 80% ยังไม่ได้รับวัคซีน ย้ำว่าวัคซีนคือตัวช่วยจริงๆ ยกตัวอย่างที่บ้านพักคนชรา พี่เลี้ยงเอาไปติดผู้สูงอายุ แต่ผู้สูงอายุทั้งหมดไม่เป็นอะไรเลย เพราะได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็มแล้ว มันแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เป็นประสิทธิผลของวัคซีน ที่พยายามพูดให้ประชาชนได้คลายความกังวลใจไปได้บ้าง ตอนนี้เวลาตนไปลงพื้นที่ตามโรงพยาบาล ห้องไอซียู เห็นแต่ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง 607 แต่คนที่ฉีดวัคซีนแล้วจะเห็นอาการที่ต่างกับคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีการใส่ท่อช่วยหายใจ

เมื่อถามว่า สิ้นเดือนนี้จะสามารถฉีดวัคซีนได้ 100 ล้านโดสตามเป้าหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า น่าจะสำเร็จ แต่ตอนนี้อย่าไปนั่งคิดเป้าหรือคิดอะไร วัคซีนเราเพียงพอที่จะทำความปลอดภัยให้กับคนในประเทศทุกคนและทุกสัญชาติ พวกแรงงานต่างด้าวก็น่าจะสบายใจขึ้น และคนที่เดินทางเข้ามาตามชายแดน ทางอธิบดีกรมควบคุมโรคได้มารายงานว่ามีการฉีดวัคซีนให้หมด เพราะเราได้รับวัคซีนที่บริจาคมาจำนวนมาก รวมถึงที่บริหารจัดการเอง

นายอนุทิน กล่าวว่า วันเดียวกัน (12 พ.ย.) จีนบริจาควัคซีนซิโนแวคมาให้ 1.5 ล้านโดส โดยเวลา 14.00 น. ทูตจีนจะนำมามอบให้นายกรัฐมนตรี ส่วนวัคซีนโมเดอร์นา ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะให้กับประเทศไทย จะมีการนำขึ้นเครื่องมาสัปดาห์หน้า และทางอธิบดีกรมควบคุมโรคได้ลงสนามในเอกสารบันทึกข้อตกลงกับทางการสหรัฐฯแล้ว มีแต่ข่าวที่เป็นบวกเข้ามา ยังมีรัฐบาลอีกหลายประเทศที่แสดงความจำนงจะมอบวัคซีนให้กับประเทศไทย และไทยเองถ้าถึงจุดที่วัคซีนเพียงพอเราต้องคำนึงถึงประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศที่มีความลำบาก หรือหลายประเทศที่เข้าโคแวกซ์แล้วยังไม่ได้รับวัคซีน ยังมีความล่าช้าอยู่ เราอาจจะไปช่วยประเทศเหล่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องในอนาคต แต่ตอนนี้เราต้องดูแลคนของเราให้เรียบร้อยก่อน นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“รัฐบาล”ไฟลต์บังคับ “ทักษิณ”ได้แค่กร่าง

ดรามาปม “อีแอบ” อาจเป็นแค่ประเด็นโชว์กร่าง หวังกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลสยบยอม หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่ ที่มีสถานะเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี ได้พ่นไฟระหว่างงานสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา

'ทักษิณ' แจงไปตีกอล์ฟ ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ 'อนุทิน' เป็นเรื่องธรรมดาลิ้นกับฟัน

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปรากฎภาพตีกอล์ฟร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสารัชถ์ รัตนาวะดี

ควักใบแดงถีบพ้นรัฐบาล ในโฟกัส"พีระพันธุ์-รทสช." ทักษิณจ้องยึด"ก.พลังงาน"

แวดวงการเมืองต่างเทน้ำหนักไปทางเดียวกัน โดยมองว่าน่าจะเป็นจริงอย่างที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ-รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวกับสื่อมวลชนว่า “สัญญาณเตือน-เตรียมควักใบแดง ถีบออกจากรัฐบาล” ของทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง

‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา

"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"