‘หมออุดม’ เตือน ปชช. ยังต้องดูแลตัวเอง คนติดโควิดต่อวันยังอยู่ที่ 3 – 4 หมื่น ชี้อย่างน้อยอีก 1 ปี ถึงจะปรับเป็นโรคประจำถิ่น ยันยกเลิก ศบค. ไม่เกิดสุญญากาศ
23 ก.ย. 2565 – เมื่อเวลา 09.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ศ.นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ที่ประมาณ 800 – 1,000 คน ส่วนผู้ที่มีผลตรวจเอทีเคเป็นบวกอยู่ที่ 1.3-1.4 หมื่นคนต่อวัน และคาดว่ามีผู้ป่วยที่ไม่ได้เข้าระบบอีก 2 – 3 เท่า โดยรวมจึงมีผู้ติดเชื้ออยู่ประมาณ 3 – 4 หมื่นรายต่อวัน ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง เป็นเหตุผลที่ทำให้เราเปลี่ยนผ่านจากโรคติดต่อร้ายแรงมาเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง แต่ยังไม่ถึงขั้นโรคประจำถิ่นที่ผู้ป่วยต้องน้อยกว่านี้
อย่างไรก็ตาม การเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังทำให้เราสบายขึ้นเยอะ เพราะทุกอย่างผ่อนคลายเกือบหมด แต่อยากย้ำว่าเรายังต้องดูแลตัวเอง เพราะยังมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 0.1 % ซึ่งเราไม่อยากให้มีใครเสียชีวิต ต้องให้อัตราการเสียชีวิตน้อยกว่านี้ ตนเชื่อว่าโควิดจะอยู่กับเราอีกไม่ต่ำกว่า 1 ปี ถึงจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ประชาชนจึงต้องดูแลตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ประเมินความเสี่ยงตนเอง สามารถถอดหน้ากากได้หากอยู่ในที่โล่ง
ทั้งนี้ ขอย้ำว่าการสวมหน้ากากมีความจำเป็น โควิด-19 ยังไม่ได้เป็นโรคประจำถิ่น ยังไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับไข้หวัด เพียงแต่เศรษฐกิจต้องเดินไป นอกจากนี้ วัคซีนยังมีความจำเป็น ที่สามารถลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต รวมทั้งหากฉีดเข็มกระตุ้นสามารถป้องกันลองโควิดได้ แต่ตอนนี้การฉีดเข็มกระตุ้นยังถือว่าต่ำ จึงขอให้เข้ารับการฉีดอย่างน้อยให้ได้เข็มที่ 3 ร้อยละ 70 ของจำนวนประชากร จะทำให้เราสบายใจกันมากขึ้น ซึ่งขณะนี้หลายคนพอเห็นอาการไม่รุนแรงเลยไม่ไปฉีดกัน
ที่ปรึกษา ศบค. กล่าวว่า การระบาดระลอกใหม่ไม่ใช่เรื่องที่เรากังวล เพราะเรียนรู้จากโควิดมา 3 ปี มีระบบที่รองรับได้ แต่หลังจากวันที่ 1 ต.ค. ไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ ศบค. หมดไป การประชุม ศบค.ครั้งนี้จึงจะคุยกันว่า จะมอบหมายให้กระทรวงต่างๆ ยังทำงานโดยบูรณาการร่วมกันโดยใช้มติคณะรัฐมนตรีไปก่อน และระยะยาวเราได้แก้ไขพระราชบัญญัติโรคติดต่อที่มีโครงสร้างบางส่วนคล้าย ศบค. จะได้ไม่ต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เข้าสภา ที่ผ่านมาเคยเสนอนายกรัฐมนตรี ออก พ.ร.ก. แก้ไข พ.ร.บ.โรคติดต่อ เพื่อใช้ไปก่อน ทั้งนี้ ยืนยันหลังวันที่ 1 ต.ค. จะไม่เกิดสุญญากาศ กระทรวงต่างๆ ยังทำหน้าที่ การทำงานจะไม่มีปัญหา แต่อาจไม่เข้มข้นเหมือนตอนมี ศบค.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอยง' ชี้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่ไวรัสยังอยู่ต่อไป
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 5 ปี โควิด 19 กาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน
ไทยติดโควิดใหม่รอบสัปดาห์ 549 ราย ดับเพิ่ม 1 คน
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2567
โควิดกลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’ ขออย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้
เวลาผ่านไปโรคโควิดลดความรุนแรงลง โรคโควิดไม่น่ากลัวหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกลัวโรคโควิดมากเกินไป
สายการบิน 'ลุฟท์ฮันซา' ต้องจ่ายค่าปรับกรณีเลือกปฏิบัติต่อผู้โดยสารชาวยิว
สายการบินลุฟท์ฮันซาต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 4 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา เหตุเพราะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดขอ