'โควิด' ทำอายุขัยเฉลี่ยคนทั่วโลกสั้นลงในรอบ 30 ปี

12 ก.ย. 2565 – นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า รายงาน “Uncertain times and unsettled lives” ความไม่แน่นอนของเวลาและชีวิต จากสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 กล่าวถึงดัชนีของการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index) ลดลงจากผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้อายุขัยเฉลี่ยของคนทั่วโลกลดลงจาก 73 ปี ในปี ค.ศ. 2019 เหลือ 71.4 ปี ในปี ค.ศ. 2021 ระดับการศึกษาลดลง และมาตรฐานการครองชีพ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ GDP ลดลงช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ค.ศ. 2020 – 2021 ทำให้ดัชนีการพัฒนามนุษย์ถอยหลังไป 5 ปี (ดูรูป)

ดัชนีการพัฒนามนุษย์เคยดีขึ้นต่อเนื่อง 30 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่ดัชนีการพัฒนามนุษย์ลดลง เข้าใจง่ายๆ คือคนทั้งโลกอายุสั้นลง คนได้รับการศึกษาน้อยลง และรายได้ลดลงจากผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19

ก่อนหน้าปีค.ศ. 2019 มีผู้แทน NGO การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) ออกมาให้ความเห็นว่าฝุ่น PM2.5 ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทย GDP ลดลงมากถึง 13% ต่อปี และอายุขัยเฉลี่ยของคนไทยลดลง 0.8 -1.6 ปีจากฝุ่นพิษ ถ้าดูจากกราฟดัชนีการพัฒนามนุษย์ซึ่งรวมอายุขัยเฉลี่ยและรายได้ของทุกประเทศตั้งแต่ ค.ศ.1990 ถึงปี ค.ศ. 2019 ไม่พบว่ามีการลดลงมีแต่เพิ่มขึ้น เริ่มลดลงหลังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คนไทยอย่าตื่นกลัวฝุ่นพีเอ็ม 2.5 มากเกินไป ขอให้ระมัดระวังตัวเรื่องโรคโควิด-19 มากกว่า รีบไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดและฉีดเข็มกระตุ้น มีมาตรการส่วนบุคคล ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอยง' ชี้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่ไวรัสยังอยู่ต่อไป

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 5 ปี โควิด 19 กาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน

‘หมอยง’ สะท้อนความรู้สึกโควิด-19 ปีที่ 2 'ยุ่งเหยิง-ดราม่าวัคซีน-เซียนคีย์บอร์ด'

หลังการระบาดใหญ่ทั่วโลก ในปีแรก ทุกคนมุ่งหวัง ที่จะยุติการระบาดด้วยวัคซีน จึงมีการผลิตคิดค้นวัคซีนกันมากมาย มากกว่า 10 platform

'คารม' บอกรัฐบาลเฝ้าระวังโรคไอกรนใกล้ชิดผู้ปกครองไม่ต้องห่วง

'คารม' เผยรัฐบาลร่วมบูรณาการเฝ้าระวังโรคไอกรนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในโรงเรียน เน้นย้ำเฝ้าระวัง ติดตามอย่างเข้มงวด ป้องกันการแพร่ระบาด ขอผู้ปกครองอย่าเป็นกังวล