'รฎาวัญ' ย้ำใช้แพทย์แผนไทยแก้โควิดอย่าพึ่งแค่วัคซีน

'รฎาวัญ' ห่วงโควิดระบาดหนัก จี้ 'อนุทิน' ใส่ใจเด็กนักเรียน แนะใช้แพทย์แผนไทยช่วย อย่าพึ่งแค่วัคซีน

14 ก.ค.2565 - นางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ หัวหน้าพรรคเสมอภาค กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่วนใหญ่พบเชื้อจากการตรวจ ATK มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการสร้างภูมิคุ้มกันถึงระดับครัวเรือนทั่วประเทศ ผู้ป่วยติดเชื้อต่างก็ฉีดวัคซีนกันแล้ว 2-3 เข็มขึ้นไปแต่ก็ยังป้องกันการติดเชื้อไม่ได้ มีแต่ความเชื่อที่ว่าจะไม่ทำให้ป่วยหนักเท่านั้น ที่น่าเป็นห่วงมากก็คือกลุ่มเด็กนักเรียน ที่ไปเรียน ไปสอบในห้องเรียน แล้วติดเชื้อโควิดกันเป็นจำนวนมาก จนต้องกลับมาเรียนออนไลน์อีกครั้ง

นางรฎาวัญกล่าวต่อว่า เรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขต้องเอาใจใส่ให้มากกว่านี้ ต้องให้บทบาท อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร(อสส.)และ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)ทำหน้าที่รณรงค์ป้องกันการติดเชื้อ และป้องกันการแพร่เชื้อจากผู้ป่วย อย่างเข้มงวดขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ นอกจากนี้ก็ต้องสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อให้ อสส.และ อสม.อย่างทั่วถึงด้วยเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุด และการให้คำแนะนำเพื่อการปฏิบัติตัวให้ปลอดภัยก็ต้องเน้นไปที่ครัวเรือนในหมู่บ้าน ในชุมชนทั่วประเทศอีกครั้งหนึ่ง และต้องทำอย่างต่อเนื่อง ต้องบูรณาการทำงานกับกระทรวงมหาดไทยซึ่งมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในทุกตำบล และยังมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบลกระจายอยู่ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบลอยู่แล้ว รวมทั้งวัดที่มีศูนย์สมุนไพรดูแลสุขภาพก็ควรให้เข้ามามีส่วนร่วมให้ความช่วยเหลือประชาชน รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขอย่าปล่อยปละละเลยประชาชนให้เผชิญโรคระบาดที่ยังไม่หมดสิ้นไปจากสิ่งแวดล้อม

"ขอย้ำอีกครั้งว่า ควรนำการแพทย์แผนไทยเข้ามาช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยรักษาโรคระบาดอุบัติใหม่ควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะได้พิสูจน์แล้วว่าภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและ การแพทย์ทางเลือก สามารถป้องกันและรักษาโรคระบาดอุบัติใหม่ได้ผลจริงตั้งแต่มีการเริ่มระบาดมาจนถึงวันนี้ นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยชื่อดังยืนยันว่า ตำรับยาห้าราก สามารถจำกัดการแพร่ขยายพันธุ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เกือบ 100% กระทรวงสาธารณสุขควรทำหน้าที่ให้ครบทุกด้าน"นางรฎาวัญกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'คารม' บอกรัฐบาลเฝ้าระวังโรคไอกรนใกล้ชิดผู้ปกครองไม่ต้องห่วง

'คารม' เผยรัฐบาลร่วมบูรณาการเฝ้าระวังโรคไอกรนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในโรงเรียน เน้นย้ำเฝ้าระวัง ติดตามอย่างเข้มงวด ป้องกันการแพร่ระบาด ขอผู้ปกครองอย่าเป็นกังวล