'สบส.' สอบ รพ.เอกชน โฆษณาแพ็กเกจรักษาโควิด ย้ำผู้ป่วยอาการหนักใช้สิทธิ UCEP Plus ได้

สบส. สอบ รพ.เอกชน โฆษณาจำหน่ายแพ็กเกจรักษาโควิด ย้ำผู้ป่วยโควิดอาการรุนแรงใช้สิทธิ UCEP Plus รักษาพยาบาลได้ ไม่เสียค่าใช้จ่าย

13 ก.ค.2565 - นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์ว่ามีสถานพยาบาลเอกชนบางแห่ง มีการโฆษณาจำหน่ายแพ็คเกจประเมินอาการ และยารักษาโรคโควิด 19 อย่างยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) หรือยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) สำหรับผู้ป่วยโรคโควิด 19 นั้น กรม สบส.ได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ทั้งในส่วนของการขออนุมัติโฆษณาก่อนที่จะเผยแพร่ มาตรฐานการรักษาทางการแพทย์ และที่มาของยารักษาโรคโควิด 19 ที่นำมาจัดจำหน่าย ห้ามนำยาที่ภาครัฐเป็นผู้สนับสนุนมาจัดจำหน่ายโดยเด็ดขาด หากตรวจพบว่าสถานพยาบาลเอกชนมีการลักลอบนำยาของภาครัฐมาจำหน่ายก็จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายพระราชบัญญัติสถานพยาบาล และพระราชบัญญัติยา อีกทั้งตัวแพทย์ผู้ให้บริการก็อาจจะถูกดำเนินการในฐานการกระทำผิดจริยธรรมทางการแพทย์

ทั้งนี้ หากผู้ป่วยอาการรุนแรง เข้าข่ายผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสีเหลือง หรือสีแดง สามารถเข้ารับการรักษาตามนโยบาย UCEP Plus กับสถานพยาบาลใดก็ได้ ไม่มีการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจนกว่าผู้ป่วยจะหายจากโรคโควิด 19 เว้นแต่ว่า ผู้ป่วยหรือญาติไม่ประสงค์ที่จะให้ไปรักษาในสถานพยาบาลที่กำหนด หรือประสงค์ไปรักษากับสถานพยาบาลอื่น ก็จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง

ทั้งนี้ หากประชาชนพบการกระทำผิดกฎหมาย หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการรับบริการกับโรงพยาบาลเอกชน หรือคลินิก สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน โทร. 1426 เพื่อตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โควิดกลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’  ขออย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้

เวลาผ่านไปโรคโควิดลดความรุนแรงลง โรคโควิดไม่น่ากลัวหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกลัวโรคโควิดมากเกินไป

สายการบิน 'ลุฟท์ฮันซา' ต้องจ่ายค่าปรับกรณีเลือกปฏิบัติต่อผู้โดยสารชาวยิว

สายการบินลุฟท์ฮันซาต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 4 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา เหตุเพราะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดขอ

ไทยติดโควิดรอบสัปดาห์ 353 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 6 - 12 ตุลาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่