'บิ๊กตู่' สั่ง สธ. เกาะติดเชื้อกลายพันธุ์ หลัง WHO พบโควิดพุ่งทั่วโลก

8 ก.ค. 2565 – เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) หรือ ศบค. ครั้งที่ 10/2565 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุม ว่า มีเรื่องที่จะเรียนให้ที่ประชุมรับทราบคือองค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานผลการติดตามการแพร่ระบาดในช่วงที่ผ่านมา และระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยโควิด-19 จากสายพันธุ์โอมิครอน BA.4 BA.5 ซึ่ง WHO แสดงความกังวลในเรื่องนี้ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของพันธุกรรมโควิด-19 เพราะหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมโรค ซึ่งอาจจะทำให้การติดตามสถานการณ์สายพันธุ์ใหม่ยากยิ่งขึ้น และขอร้องให้ประเทศต่างๆ สร้างภูมิคุ้มกันกับประชาชน เพื่อลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตหากติดเชื้อ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ส่วนข้อมูลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกในขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ BA.4 , BA.5 มากขึ้นโดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐอเมริกา อาจจะทดแทนสายพันธุ์เดิม แม้ยังไม่มีข้อมูลว่าสายพันธุ์ดังกล่าวมีการแพร่เชื้อที่รุนแรงมากกว่าสายพันธุ์เดิมอย่างไร แต่การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนการแพร่ระบาดในประเทศไทยก็มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จากการผ่อนคลายมาตรการที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะทำให้พบการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้น โดยพบผู้ติดเชื้อมีอาการเล็กน้อยและรักษาตัวที่บ้านมากขึ้น แต่ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นไม่มากนัก จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง รวมทั้งสุ่มตรวจและติดตามการกลายพันธุ์โดยเฉพาะ BA.4 BA.5 เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์และกำหนดมาตรการต่อไป พร้อมขอให้รายงานความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีน รวมทั้งติดตามการผ่อนคลายกิจกรรม เพื่อช่วยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ เพราะหากคำนึงถึงสาธารณสุขเพียงด้านเดียว ด้านอื่นจะไปต่อไม่ได้ และขอให้เข้มงวดมาตรการ Universal prevention พร้อมเร่งรัดการวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากยิ่งขึ้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้

เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ

เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน

'ธนกร' ชี้หลัง 22 พ.ย.ประเทศก็ยังเดินหน้าต่อ!

'ธนกร' มองทุกคดีศาล รธน.ยึดตามหลักกฎหมาย เชื่อการเมืองหลัง 22 พ.ย.นี้ประเทศต้องเดินหน้าต่อ ขอทุกฝ่ายอย่าคาดเดาจนอาจก้าวล่วงอำนาจ ฝากรัฐบาลเร่งทำผลงาน