สธ. วางแผนรับโควิดสู่โรคประจำถิ่น เร็วกว่ากำหนดครึ่งเดือน ชี้โอมิครอนรุนแรงน้อยกว่าไข้หวัดใหญ่

19 พ.ค.2565 - นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิดในขณะนี้มีทิศทางดีขึ้นต่อเนื่อง น่าจะเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ตามกำหนดกว่าครึ่งเดือน จึงให้ทุกหน่วยงานเตรียมวางแผนการดำเนินงานรองรับ โดยเฉพาะเรื่องระบบบริการสาธารณสุข

นพ.เกียรติภูมิ ระบุว่า ขณะนี้สายพันธุ์โอมิครอนมีความรุนแรงลดลงอย่างมาก ความรุนแรงน้อยกว่าโรคไข้หวัดใหญ่ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ หรือมีอาการคล้ายไข้หวัด ประกอบกับการฉีดวัคซีนโควิด 19 มีความครอบคลุมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กรมการแพทย์ได้เสนอปรับการดูแลในรูปแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักที่บ้าน (OPSI) ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางถึงอาการรุนแรง จะรักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) ในโรงพยาบาล เน้นการเข้าถึงการรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงการเสียชีวิต

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า ได้เตรียมพร้อมการดูแลภาวะลองโควิด โดยกรมการแพทย์ได้จัดทำแนวทางการคัดกรองและการประเมินอาการเบื้องต้น รวมถึงวางระบบดูแลรักษาติดตามอาการ โดยมีการบูรณาการการรักษาภาวะลองโควิดไปยังทุกแผนกที่เกี่ยวข้อง มีช่องทางการให้คำปรึกษาส่งต่อระหว่างสถานพยาบาล และเก็บข้อมูลผู้ป่วยภาวะลองโควิดรายสัปดาห์หรือรายเดือน ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศเพื่อสื่อสารทำความเข้าใจ ให้สามารถเดินหน้าเรื่องนี้ไปในทิศทางเดียวกัน

ส่วนมาตรการด้านกฎหมายและสังคม จะมีการปรับให้สอดคล้องเช่นกัน เช่น การปรับจากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง การปรับลดมาตรการต่างๆ ให้สามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติภายใต้วิถีชีวิตใหม่ บนหลักการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับโรคได้ โดยเฉพาะการคงหลักพฤติกรรมสุขอนามัยที่พึงประสงค์ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่อเข้าไปในสถานที่ปิด ระบายอากาศไม่ดี มีคนรวมตัวกันหนาแน่น ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ หรือมีความใกล้ชิดกับผู้ป่วย การล้างมือบ่อยๆ คัดกรองตนเองเมื่อมีความเสี่ยงหรือมีอาการ ขณะที่สถานประกอบการและกิจการต่างๆ ยังต้องเข้มการจัดการสิ่งแวดล้อม ทำความสะอาด จัดการขยะตามหลักสุขาภิบาล เพื่อให้เป็นสถานที่ที่มีความปลอดภัย ไม่เฉพาะแค่โรคโควิด แต่ยังรวมถึงโรคอื่นๆ ด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมอนามัย ถอดบทเรียนภัยพิบัติ ยกระดับทีม SEhRT และการจัดการศูนย์พักพิง สร้างระบบสุขภาพเข้มแข็งรองรับภาวะฉุกเฉิน

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับทีม SEhRT การจัดการศูนย์พักพิง จากการถอดบทเรียนภัยพิบัติน้ำท่วมใต้ สู่ชายแดนไทย – กัมพูชา รับนโยบาย รมว.สธ. วางระบบฟื้นฟูการดูแลสุขภาพ สุขอนามัย และสุขาภิบาลให้กับประชาชนในศูนย์พักพิงเข้มข้

กระทรวงสาธารณสุข จัดงาน Thailand ATMP Roadmap 2025 เดินหน้าเร่งรัดการเข้าถึงและนวัตกรรมการแพทย์ขั้นสูง มุ่งสู่การขึ้นทะเบียน ATMP ที่รวดเร็วที่สุดในอาเซียน

กระทรวงสาธารณสุข จัดงาน “Thailand ATMP Roadmap 2025 : Fast-Track to Access & Innovation Fastest in ASEAN” ระหว่างวันที่ 22–23 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์

รัฐบาลไทยเร่งแก้ปัญหาท้องในวัยรุ่น บูรณาการความร่วมมือ 3 หน่วยงาน ถอดบทเรียน 8 คู่มือปฏิบัติงานเสริมสร้างกลไภความเข้มแข็งในระดับพื้นพื้นที่

นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน พิธีเปิด "การประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อส่งมอบผลงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงาน ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของประเทศ" โดยจัดขึ้นร่วมกันระหว่างสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

รมว.สธ. ตอก 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดเว็บรับแจ้งศพน้ำท่วม ชี้วัดอะไรไม่ได้ หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร

"พัฒนา​" เมิน​ "บิ๊กโจ๊ก" ปูด​ตัวเลขผู้เสียชีวิตน้ำท่วมใต้หลักพัน​ ชี้ตัวเลข​ 140 รายของสธ.​ ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง บอก​ หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร ตัวเลขในเว็บไซต์​ชี้ชัดอะไรไม่ได้

สธ. แถลงยอดผู้เสียชีวิ​ต​ 'น้ำท่วมสงขลา'​ 140 คน คาดจากนี้เพิ่มแค่หลักหน่วย

นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข​ แถลงสถานการณ์ผู้เสียชีวิจากเหตุน้ำท่วม​ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา​ ว่า​ จะยึดข้อมูลที่​โรงพยาบาลสงขลานครินทร์​เป็นหลัก เพราะศูนย์​รวบรวมศพผู้เสียชีวิต​ ซึ่งข้อมูลปัจจุบัน​ ณ​ เวลา​ 16.00​ มีผู้เสียชีวิตอยู่ในระบบ 140 คน

'หมอยง' เปิดข้อมูล 'ไข้เลือดออก' ก่อนตัดสินใจฉีดวัคซีน

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง "วัคซีนไข้เลือดออก" โดยระบุว่า