ชง 'ศบค.ชุดใหญ่' เคาะปรับโซนสีแดงเข้ม เหลือ 7 จังหวัด 29 ต.ค.นี้

28 ต.ค.2564 - รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุมศบค.ชุดใหญ่ วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. เป็นประธานการประชุม โดยศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 (ศปก.ศบค.) เตรียมเสนอปรับลดความเข้มข้นของมาตรการลงเพื่อให้เกิดความผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้

ทั้งนี้จะมีการเสนอขอปรับโซนสี พื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม ที่เดิมมี 23 จังหวัด เหลือเพียง 7 จังหวัด คือ สงขลา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา นครศรีธรรมราช จันทบุรี และตาก แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 7 จังหวัดนี้ยังคงมาตรการเดิมของพื้นที่สีแดงเข้ม จะไม่มีการเข้มมาตรการใดมากขึ้น และไม่มีการปรับเรื่องของเวลาการออกนอกเคหสถานในเวลากลางคืน แต่อย่างใด

สำหรับศบค. ส่วนหน้าได้เตรียมรายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเตรียมเสนอ 5 แนวทาง ได้แก่ การป้องกัน การควบคุม การรักษา การเยียวยา และการเตรียมความพร้อมเข้าสู่มาตรการผ่อนคลาย

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ศบค. ส่วนหน้ายืนยันว่ามีวัคซีนเพียงพอ เหลือเพียงแต่ขั้นตอนของกระบวนการที่เจ้าหน้าที่จะเข้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเท่านั้น ซึ่งขณะนี้กำลังเชิญชวนประชาชน ให้เข้ามารับวัคซีนให้มากขึ้น โดยเป็นการบูรณาการงานทุกภาคส่วนร่วมกัน และทางชุมชนเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้ความกังวล ในการทำงานของศบค.ส่วนหน้าคือ ตัวเลขผู้เสียชีวิตและจำนวนของผู้ติดเชื้อใหม่ ถึงแม้ว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นแต่ยังมีความห่วงใยอยู่ และต้องการให้จำนวนตัวเลขลดลงมากกว่านี้ ซึ่งศบค.ส่วนหน้าระบุว่าจะพยายามอย่างเต็มความสามารถ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอยง' ชี้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่ไวรัสยังอยู่ต่อไป

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 5 ปี โควิด 19 กาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน

โควิดกลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’  ขออย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้

เวลาผ่านไปโรคโควิดลดความรุนแรงลง โรคโควิดไม่น่ากลัวหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกลัวโรคโควิดมากเกินไป

สายการบิน 'ลุฟท์ฮันซา' ต้องจ่ายค่าปรับกรณีเลือกปฏิบัติต่อผู้โดยสารชาวยิว

สายการบินลุฟท์ฮันซาต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 4 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา เหตุเพราะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดขอ