'หมอธีระ' ห่วงตาบอดคลำช้าง แนะต้องรวมผล ATK ประเมินสถานการณ์จริง

9 พ.ค. 2565 – รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 299,977 คน ตายเพิ่ม 611 คน รวมแล้วติดไปรวม 517,204,266 คน เสียชีวิตรวม 6,276,327 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ไต้หวัน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอิตาลี เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 75.44 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 87.56

การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 47.92 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 35.51
.
..สถานการณ์ระบาดของไทย จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก และอันดับ 4 ของเอเชีย

ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก ถึงแม้ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.เป็นต้นมาจนทำให้จำนวนเสียชีวิตที่รายงานนั้นลดลงก็ตาม

ทั้งนี้จำนวนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานนั้นคิดเป็น 24.88% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย

…เปรียบเทียบจำนวนการตรวจ RT-PCR ต่อประชากร 1,000 คน หากลองเทียบกันระหว่างประเทศที่ตอนนี้มีจำนวนการติดเชื้อใหม่รายวันสูงเป็น 10 อันดับแรก

จะพบว่าประเทศส่วนใหญ่่จะเพิ่มกำลังการตรวจคัดกรองโรคด้วยวิธีมาตรฐาน RT-PCR เพื่อเร่งควบคุมการระบาดภายในประเทศ

ในขณะที่ของไทยเรา ตั้งแต่ระลอกสอง สาม และสี่ในปัจจุบันนั้น จำนวนการตรวจต่อประชากร 1,000 คนนั้น เพิ่มขึ้นเล็กน้อยและคงที่มาตลอด

เป็นข้อมูลที่สะท้อนให้เห็นว่าการประเมินสถานการณ์การระบาดจริงนั้น จำเป็นที่จะต้องรวมจำนวนการตรวจด้วย ATK เข้ามาด้วย และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ เป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นขีดจำกัดของระบบการตรวจคัดกรองโรคที่จะรองรับการระบาดในอนาคตด้วย

…ด้วยข้อจำกัดเรื่องระบบการตรวจคัดกรอง และระบบการรายงานจำนวนการติดเชื้อ (รวมถึงการรายงานจำนวนการเสียชีวิตที่เห็นกันชัดเจนตั้งแต่ 1 พ.ค.เป็นต้นมา)

อาจต้องระวังให้ดี เพราะการวางแผนนโยบายด้วยข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ อาจทำให้เป็นแบบตาบอดคลำช้างได้ และเสี่ยงต่อภาวะคุกคามที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยอาจส่งผลให้เกิดความสูญเสียและผลกระทบตามมาดังที่ได้บทเรียนจากระลอกอัลฟาและเดลตา

ระบบรายงานจำนวนการติดเชื้อควรนำเสนอทั้ง RT-PCR และ ATK และจำนวนรวม เพื่อนำมาใช้ในการประเมินสถานการณ์ วางแผนมาตรการต่างๆ และจะทำให้ประชาชนในสังคมได้ตระหนักถึงสถานการณ์

เฉกเช่นเดียวกับจำนวนการเสียชีวิต ควรนำเสนอทั้ง Death from COVID-19 และ Death with COVID-19 และจำนวนรวม เพื่อสะท้อนถึงสถานการณ์จริง และสังคมได้รับรู้รายละเอียด เพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจประพฤติปฏิบัติ ป้องกันตัวอย่างดีขึ้น

…สถานการณ์ปัจจุบัน การระบาดยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง กระจายทั่ว และมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดการระบาดปะทุขึ้นได้หลังจากเปิดประเทศ การป้องกันตัวระหว่างการใช้ชีวิตประจำวันยังจำเป็นต้องทำอย่างสม่ำเสมอ

การใส่หน้ากากเสมอ คือหัวใจสำคัญ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โควิดพุ่ง! ติดเชื้อใหม่รอบสัปดาห์ 3,039 ราย ดับ 1 คน 'เชียงใหม่' ป่วยสูงสุด

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 22 - 28 ธันวาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่

'หมอยง' ชี้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่ไวรัสยังอยู่ต่อไป

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 5 ปี โควิด 19 กาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน

‘หมอยง’ สะท้อนความรู้สึกโควิด-19 ปีที่ 2 'ยุ่งเหยิง-ดราม่าวัคซีน-เซียนคีย์บอร์ด'

หลังการระบาดใหญ่ทั่วโลก ในปีแรก ทุกคนมุ่งหวัง ที่จะยุติการระบาดด้วยวัคซีน จึงมีการผลิตคิดค้นวัคซีนกันมากมาย มากกว่า 10 platform

'คารม' บอกรัฐบาลเฝ้าระวังโรคไอกรนใกล้ชิดผู้ปกครองไม่ต้องห่วง

'คารม' เผยรัฐบาลร่วมบูรณาการเฝ้าระวังโรคไอกรนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในโรงเรียน เน้นย้ำเฝ้าระวัง ติดตามอย่างเข้มงวด ป้องกันการแพร่ระบาด ขอผู้ปกครองอย่าเป็นกังวล