ศบค.เล็งแยกเสียการชีวิตโควิดจากโรคร่วมหรือไวรัส

ศบค.ชี้แนวโน้มป่วยทรงตัว ค่อยๆ ลดลง เล็ง แยกสาเหตุการเสียชีวิต 2 กลุ่ม ตายเพราะโควิด-โรคร่วม ยันไม่เลิกไทยแลนด์พาส แค่ลดขั้นตอน

28 เม.ย.2565 - พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า ทิศทางการติดเชื้อในประเทศไทยขณะนี้ถือว่าค่อยๆ ลดลง แนวโน้มยังทรงๆ ลดลงอย่างช้าๆ เป็นเพราะความร่วมมือของประชาชนในการป้องกันตนเอง แม้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่เราคาดการณ์ว่าผู้ติดเชื้อจะสูง แต่เพราะความร่วมมือทำให้การติดเชื้อน้อยลง หากสถานการณ์ดีขึ้นเช่นนี้เรื่อยๆ จะผ่อนคลายกิจการกิจกรรมต่างๆ ให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นตามแผนที่วางไว้ ขณะที่แนวโน้มผู้เสียชีวิตยังทรงๆ ตัว มีผู้เสียชีวิตมากกว่าร้อยรายมา 19 วันแล้ว

“ในที่ประชุมอีโอซี กระทรวงสาธารณสุขได้มีการหารือถึงรายละเอียดของผู้เสียชีวิต จากนี้จะต้องวิเคราะห์การเสียชีวิตเป็น 2 ส่วน คือ เสียชีวิตจากโควิด-19 และเสียชีวิตจากโรคร่วมและตรวจพบเชื้อในภายหลัง โดยผู้เสียชีวิตวันนี้จาก 127 ราย เป็นผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 66 ราย หรือ 52% และเสียชีวิตจากโรคร่วม 61 ราย หรือ 48% แต่ทั้งสองกลุ่มส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิตจะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว จึงควรแยกแยะให้ชัดเจน”

เมื่อถามว่า มีเสียงสะท้อนเรื่องไทยแลนด์พาส และมีกระแสข่าวยกเลิกไทยแลนด์พาส พญ.สุมนี กล่าวว่า ไทยแลนด์พาสเป็นระบบที่เมื่อนักเดินทางและนักท่องเที่ยวเข้ามาจะต้องลงทะเบียนผ่านระบบนี้ แต่จากการมาตรการที่เราผ่อนคลาย มีการยกเลิกเทสต์แอนด์โก ทำให้ไม่มีขั้นตอนการจองโรงแรมและจองตรวจ RT-PCR ทำให้ระบบดำเนินการได้เร็วขึ้น อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น ช่วยให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ไวขึ้น แต่การลงทะเบียนยังคงมีอยู่ และไม่น่าจะมีปัญหาหรือติดขัดอะไร โดยหลังจากวันที่ 1 พ.ค.ที่เริ่มมาตรการ ศบค.ต้องติดตามหน้างานเป็นระยะ ถ้าดีขึ้นเราจะได้ดำเนินการตามแผนผ่อนคลายต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมควบคุมโรค เผย ชาวอเมริกันติดไวรัสไข้หวัดนกจากฝูงนกหลังบ้านเป็นรายแรก หนัก!นอนICU

กรมควบคุมโรค เผยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ Centers for Disease Control and Prevention (CDC) รายงาน ผู้ติดเชื้อไวรั

'หมอยง' ชี้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่ไวรัสยังอยู่ต่อไป

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 5 ปี โควิด 19 กาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน