'นพ.ธีระ' ชี้ไทยน่าห่วงยอดเสียชีวิตโควิดติดท็อปเทนโลกแล้วยังพุ่งมากกว่าเพื่อน

'หมอธีระ' ยกตัวเลข Worldometer ชี้ไทยมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มาก และที่น่าห่วงอัตราการเสียชีวิตรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นมากกว่าสัปดาห์ก่อนหน้า 23% แนะ 4 ข้อควรปฏิบัติเพื่อสู้โควิด

21 เม.ย.2565 - รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กถึงสถานการณ์โควิดประจำวันที่ 21 เมษายน 2565 ว่าทะลุ 506 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 865,395 คน ตายเพิ่ม 2,945 คน รวมแล้วติดไปรวม 506,751,160 คน เสียชีวิตรวม 6,231,019 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เยอรมัน ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ อิตาลี และออสเตรเลีย เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 83.41 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 78.5 การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 24.68 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 16.87

...สถานการณ์ระบาดของไทย เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก ทั้งนี้จำนวนคนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานนั้นคิดเป็น 25.75% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย

...ดูสถิติจำนวนการเสียชีวิตรายสัปดาห์จาก Worldometer ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากใน 10 อันดับแรกของโลก ทั้งนี้ที่น่ากังวลคือ ใน 10 ประเทศนั้น มีไทยเพียงประเทศเดียว ที่มีอัตราการเสียชีวิตรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นมากกว่าสัปดาห์ก่อนหน้า 23% ส่วนอีก 9 ประเทศนั้นล้วนมีอัตราการเสียชีวิตลดลงทั้งสิ้น

...นโยบายและมาตรการในการควบคุมป้องกันโรคที่จำเป็น เปรียบเทียบเรื่องอุบัติเหตุจราจรกับโควิด-19 ในการจัดการปัญหาอุบัติเหตุจราจร การขับขี่รถอย่างปลอดภัยนั้น จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎจราจร, ศึกษาเส้นทางให้ดี, ใช้รถที่มีถุงลมนิรภัย, และต้องคาดเข็มขัดนิรภัย 4 ข้อนี้คือสิ่งจำเป็นต้องทำพร้อมกันเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และการเสียชีวิต

การจัดการเรื่องโควิด-19 ก็เช่นกัน... การปฏิบัติตามกฎระเบียบ (เว้นระยะห่าง เลี่ยงกิจกรรม/สถานที่เสี่ยง ปรับสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย ตรวจคัดกรองโรค), การหาความรู้ที่ถูกต้องเพื่อใช้ในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ และเข้าใจเรื่องนั้นอย่างถ่องแท้, การฉีดวัคซีน, และการใส่หน้ากาก นี่คือ 4 ข้อที่จำเป็นต้องทำในระยะยาวตราบเท่าที่การระบาดยังดำเนินอยู่ หากเข้าใจสิ่งที่อธิบายมาข้างต้น ก็จะทราบได้ว่า ทั้ง 4 ข้อต้องทำพร้อมกัน เพื่อเสริมกัน ไม่สามารถเลือกทำ หรือทดแทนกันได้ และเราก็สามารถประเมินได้ว่า เหตุใดการระบาดของไทยเราในช่วงที่ผ่านมาจึงยังคงรุนแรงต่อเนื่อง กระจายไปทั่ว เหตุย่อมเกิดมาจากการไม่สามารถดำเนินการทั้ง 4 ข้อข้างต้นได้อย่างดีเพียงพอ การแก้ไขปัญหาจึงต้องทบทวนนโยบาย มาตรการ กลไกการบริหารจัดการ และวิธีการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังมีทัศนคติผลักดันนโยบายและมาตรการที่ทำให้ย่อหย่อนมากขึ้นในประการใดก็ตาม ความเสี่ยงย่อมเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว และโอกาสที่จะควบคุมโรคได้ย่อมริบหรี่  ประชาชนในสังคมจึงจำเป็นต้องดูแลจัดการตนเองและครอบครัวให้ดี เพื่อให้เกิดสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิต


โควิด...ติด...ไม่ใช่แค่คุณ โควิด...ติด...ไม่จบแค่หายกับตาย แต่จะเกิดปัญหาระยะยาวอย่าง Long COVID ที่จะบั่นทอนสมรรถนะการดำเนินชีวิต และการทำงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งต่อผู้ป่วย ครอบครัว และสังคม ใส่หน้ากากนะครับ สำคัญมาก เพราะเป็นปราการสุดท้ายสำหรับตัวคุณ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จุฬาฯ เดินหน้ายุทธศาสตร์ใหม่ สร้าง Siam Square ให้เป็นพื้นที่สำหรับคนไทยทุกคน รวมพลคนพิการโชว์พลังครั้งใหญ่ที่สุด!

อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำทีม PMCU (สำนักทรัพย์สินจุฬาฯ) และ มูลนิธิ Five for All เปิดงาน Siam Square Walking Street For All ครั้งแรก! บนพื้นที่ใจกลางสยามสแควร์ ให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับคนไทยทุกคน ทุกกลุ่ม

โควิดกลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’  ขออย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้

เวลาผ่านไปโรคโควิดลดความรุนแรงลง โรคโควิดไม่น่ากลัวหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกลัวโรคโควิดมากเกินไป