11 เม.ย.65- ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2565 โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กลาโหม มหาดไทย แรงงาน ศึกษาธิการ การต่างประเทศ การท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ UHOSNET โรงพยาบาลเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุข ผู้แทนสภาวิชาชีพและองค์กรอิสระ ร่วมประชุมทั้งแบบออนไซต์และออนไลน์
นายอนุทินกล่าวว่า เนื่องจากกำลังจะเข้าสู่วันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ขอย้ำความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือยังไม่ได้ฉีดเข็มกระตุ้น และขอความร่วมมือประชาชนใช้มาตรการ 2U เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่และรับเชื้อโควิด 19 คือ Universal Prevention สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง เมื่อใกล้ชิดผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง รวมทั้งงดรับประทานอาหารร่วมกัน รวมถึงการดูแลตนเองให้ปลอดความเสี่ยงติดเชื้อ (Self clean-up) ก่อนกลับไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ และ Universal Vaccination ทุกกลุ่มอายุเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทั้งเข็มปกติและเข็มกระตุ้น โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้ให้โรงพยาบาลและรพ.สต.ในพื้นที่เปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้กับผู้สูงอายุและลูกหลานที่เดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อและเสียชีวิต
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อในทุกจังหวัดแต่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการมากในกลุ่มสีเหลืองและสีแดงต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล มีอัตราครองเตียงประมาณ 30% ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมพร้อมยาต้านไวรัสที่จะใช้รักษาผู้ป่วยโควิด 19 ทั้งยาฟาวิพิราเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์ และยาแพกซ์โลวิด รวมถึงจัดหาเวชภัณฑ์ซึ่งเป็นสารภูมิคุ้มกันชนิดออกฤทธิ์ยาว หรือ Long acting antibodies สำหรับฉีดในผู้ที่มีความเสี่ยงและมีภูมิคุ้มกันต่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อจนมีอาการหนักด้วย ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 ภาพรวมไปแล้วกว่า 130 ล้านโดส ครอบคลุมเข็มแรกกว่า 80 % เข็มที่สอง 73 % และเข็มที่สาม 35 % แต่ยังมีผู้สูงอายุอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วยติดเตียงจำนวนหนึ่งที่เดินทางไม่สะดวกทำให้ยังไม่ได้รับวัคซีน ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาจึงมีการรณรงค์ “Save 608 by booster dose” เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ โดยให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับอสม.ออกสำรวจ และให้บริการฉีดวัคซีนเชิงรุกถึงบ้านโดยเร็ว เพื่อป้องกันการเสียชีวิต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถก ศปช.ระอุ มท.1 สั่งว่าที่ปลัดลงพื้นที่เชียงรายด่วน
วงประชุม ศปช.ระอุ! 'อนุทิน' สั่งว่าที่ปลัดลงพื้นที่เชียงรายคุมน้ำท่วม หลังผวจ.ไม่ขับเคลื่อนงานอ้างป่วย-รอเกษียณ
มท.1 ลั่นเจ้าหนี้ยืนขู่ลูกหนี้หน้าตู้ATMหลังกดรับเงินแจกไม่ได้
'อนุทิน' ลั่นเจ้าหนี้ยืนขู่ลูกหนี้หน้าตู้เอทีเอ็มไม่ได้ หลังมีภาพยืนรอเงินหมื่น เจอให้แจ้ง จนท.รวบเลย ระบุ ให้นายอำเภอประสานตำรวจ รับ เป็นหนี้ต้องใช้ แต่ไม่ใช่เอาไปหมด
'อนุทิน' เตรียมชง ครม.เพิ่มเกณฑ์ช่วยเหลือน้ำท่วม
'อนุทิน' เตรียมชง ครม.ปรับเกณฑ์ช่วยเหลือน้ำท่วมให้ได้มากขึ้น เร่งเคลียร์สิ่งกีดขวางแม่น้ำปิง-แม่น้ำกก ให้ไหลได้ดีขึ้น
'อนุทิน' ปัดไม่ใช่หัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ชงแก้เรื่องจริยธรรม
'อนุทิน' ยันไม่ใช่หัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ ต้นเรื่องแก้ รธน.รายมาตรา หลัง 'เพื่อไทย' โยนเผือกร้อนพ้นตัว
สั่งขันนอตเยียวยาน้ำท่วม ผุดHOT ALERTแจ้งเตือน
“อนุทิน” ขันนอตช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วม พุ่งเป้าอัดฉีดเงินรายครัวเรือนตามการประสบภัย
‘หมอธีระวัฒน์’ ยกรายงานญี่ปุ่น ประเมินผลวัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง
วัคซีนนั้นทำให้ระบบการตรวจตราเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดมะเร็งนั้นถดถอยลงโดยเฉพาะในระบบ ที่เรียกว่า innate immunity และความบกพร่องห่วงโซ่ ในระบบภูมิคุ้มกัน