นายกฯ สั่งการดูแลกลุ่ม 608 อย่างใกล้ชิด แจง ศบค. ยังไม่มีการอนุมัติการจัดหายาแอนติบอดี้ออกฤทธิ์ยาว หรือ LAAB สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ย้ำ รอผลการศึกษาความคุ้มค่า-ผล ที่จะเกิดขึ้นจาก สธ. ก่อน
11 เม.ย. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2565 ที่ปรากฏความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ในเรื่องแผนการจัดหา Long-acting antibody (LAAB) ใน 2 ประเด็น โดยชี้แจงว่า 1) LAAB ไม่ได้ใช้ทดแทนวัคซีน แต่จะใช้เสริมให้กับกลุ่มที่ภูมิต่ำ หรือภูมิไม่ขึ้น หลังฉีดวัคซีน โดยวัคซีนยังคงเป็นตัวหลักในการควบคุมโรคในปัจจุบัน 2) การจัดหา LAAB ยังต้องรอผลการศึกษาความคุ้มค่าและผลที่จะเกิดขึ้นตามมาจากกระทรวงสาธารณสุขก่อน จึงจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
นายธนกร กล่าวอีกว่าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยเรื่องการเสียชีวิตในกลุ่ม 608 โดยได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลกลุ่ม 608 อย่างใกล้ชิด พร้อมกับขอให้กระทรวงมหาดไทยติดตามและดูแลการปฏิบัติตามหนังสือสั่งการของปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้โรงพยาบาลพิจารณาปรับแนวทางการดูแลกลุ่ม 608 เพราะการเข้าระบบ HI หรือ เจอ แจก จบ อาจมีความเสี่ยงสูงสำหรับกลุ่มนี้
“ยืนยันว่าที่ประชุม ศบค. ยังไม่มีการอนุมัติหรือเห็นชอบการจัดหายาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว หรือ LAAB สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ขอให้กระทรวงสาธารณสุข กลับไปศึกษาและจัดทำรายละเอียดให้รอบด้าน ก่อนนำกลับมาเสนอที่ประชุม ศบค. อีกครั้ง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยเรื่องการเสียชีวิตในกลุ่ม 608 เน้นย้ำขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ร่วมกันประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะบุคคลในครอบครัว ให้พากลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนโดยเร็วที่สุด เพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น เพราะวัคซีนเท่านั้นที่จะช่วยลดการเสียชีวิตได้มากที่สุด” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอยง' ชี้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่ไวรัสยังอยู่ต่อไป
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 5 ปี โควิด 19 กาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน
'สมศักดิ์' ดึง สสส. ช่วย 'นับคาร์บ' ชวนคนไทยลดโรค NCDs ต้นเหตุคร่าชีวิตคนไทยชั่วโมงละ 45 คน ผจก.สสส.เดินหน้าพัฒนาฐานข้อมูลเชื่อมท้องถิ่นลดเสี่ยง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะรองประธานกรรมการกองทุน สสส. คนที่ 1 กล่าวในการเป็นประธานประชุมกรรมการกองทุนฯ ครั้งที่ 8/2567 ว่า จากข้อมูลพบว่ามีผู้เสียชีวิตจาก NCDs 400,000 คนต่อปี คิดเป็นชั่วโมงละ 45 คน