4 เม.ย. 2565 – ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยมี นายตีแยรี มาตู (H.E. Mr. Thierry Mathou) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนรัฐบาลสาธารณรัฐฝรั่งเศส
ภายหลังการรับมอบ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณรัฐบาลฝรั่งเศสสำหรับการสนับสนุนวัคซีนโควิด-19 ไฟเซอร์ (Pfizer) รวมจำนวน 3,268,620 โดส ขอบคุณเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสฯ ถือเป็นบุคคลสำคัญที่ผลักดันและสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ฝรั่งเศสให้มีความใกล้ชิดมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมยินดีที่ได้ร่วมมือกันในทุกมิติอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขเพื่อร่วมกันก้าวผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยจะใช้ประโยชน์จากวัคซีนที่ได้การสนับสนุนให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึงเท่าเทียม และจะสนับสนุนการบริจาควัคซีนให้แก่ประเทศต่าง ๆ เช่นกัน เพื่อให้ทุกประเทศสามารถเข้าถึงวัคซีนได้ โดยไทยได้บริจาควัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ และภูมิภาคแอฟริกา นอกจากนี้ ได้ขอบคุณรัฐบาลฝรั่งเศสความร่วมมือและมิตรภาพที่ดีต่อกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ติดตามการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส และขอให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น
นายธนกร กล่าวว่าด้านเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสฯ ยินดี และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ส่งมอบวัคซีนในครั้งนี้ ถือเป็นนัยยะสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่ดีระหว่างไทย-ฝรั่งเศส เชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศจะสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 และด้านการสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมยินดีส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน การยกระดับการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-ฝรั่งเศส ตลอดจนความร่วมมือพหุภาคีผ่านอาเซียน – ฝรั่งเศส ในฐานะที่ฝรั่งเศสเป็นประเทศหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของอาเซียน
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นความร่วมมือต่างๆ ได้แก่ความร่วมมือทวิภาคี ทั้งสองฝ่ายยินดีที่การลงนามในแผนการ (Roadmap) สำหรับการดำเนินความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศส (ค.ศ.2022-2025) ในช่วงระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเกี่ยวกับความร่วมมือในอินโด – แปซิฟิก ณ กรุงปารีส เป็นผลสำเร็จ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดันความร่วมมือภายใต้แผนการดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมได้โดยเร็ว บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์โควิด-19 ด้านเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสเห็นพ้องและพร้อมที่จะยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ผ่านการลงนามความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้าน (Partnership and Cooperation Agreement – PCA) ให้บรรลุผลสำเร็จโดยเร็ว
ส่วนความร่วมมือพหุภาคี เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสฯ กล่าวว่า การเป็นประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (อียู) ของฝรั่งเศสในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ได้มีการจัดการประชุมครั้งแรกเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งประสบผลสำเร็จด้วยดี โดยฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และพร้อมที่จะร่วมมือกับอาเซียนให้มากขึ้น ด้านนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ฝรั่งเศสจะช่วยส่งเสริมการกำหนดทิศทางนโยบายของสหภาพยุโรปให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่จะขยายความร่วมมือรอบด้าน โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากวิกฤตโควิด-19 อย่างยั่งยืน
นายธนกร กล่าวด้วยว่า อนึ่ง การรับมอบวัคซีนครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.วัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 400,140 โดส และอุปกรณ์การฉีด และ 2.วัคซีนไฟเซอร์ ชนิด Ready to Use (RTU) จำนวน 2,868,480 โดส ซึ่งทั้งหมดได้ส่งถึงไทยแล้วและจะจัดสรรวัคซีนให้เหมาะสมและครอบคลุมแก่ประชาชนต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ฌอง-มารี เลอ แปน’ นักการเมืองขวาสุดโต่งของฝรั่งเศส เสียชีวิตแล้วในวัย 96 ปี
เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคแนวร่วมแห่งชาติ (Front National) และกำหนดเส้นทางฝ่ายขวาแบบสุดโต่งในฝรั่งเศสมาเป็นเวลาหลายปี จากนั้นลูกส
นายกฯอิ๊งค์เปิดงานวันเด็กที่กระทรวงศึกษาฯ
นายกฯ เตรียมเปิดงานวันเด็กกระทรวงศึกษาฯ จัดเต็มกิจกรรมสร้างความรู้ สนุกสนาน
'แพทองธาร' ขนคณะลงพื้นที่ภูเก็ตตัดริบบิ้นเปิดงานพิธีแสดงเรือนานาชาติ!
'นายกฯ' ลงพื้นที่ภูเก็ตพรุ่งนี้ ขอแก้ไขปัญหาให้ครบทุกวงจร เพิ่มศักยภาพทุกมิติทั้งท่องเที่ยว ยกเป็นต้นแบบทำให้ได้ทุกจังหวัด
'เทพไท' ชี้ 'พ่อ-ลูก' ชินวัตรผลัดกันอวยจะนำความเสียหายมาสู่ชาติ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา
'ดร.ก้อง'เผยโครงการ'สปอร์ต คอมเพล็กซ์' ขานรับแนวคิด'นายกฯ' เพิ่มสนามมาตรฐานรับศึกใหญ่
ดร.ก้อง” เผยโครงการ “สปอร์ต คอมเพล็กซ์” ขานรับแนวคิด “นายกรัฐมนตรี” ให้สร้างสนามกีฬาระดับมาตรฐานเพิ่ม เพื่อรองรับรายการระดับนานาชาติที่ใหญ่ขึ้น
นายกฯอิ๊งค์ เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง 'ข้าราชการการเมือง' จำนวน 16 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ ๔๖๓/๒๕๖๗ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง