"สธ." ฉีดวัคซีนทะลุเกินเป้า 50% ก่อนจบเดือนต.ค เผยฉีดวัคซีนให้เด็กแล้วกว่า 2 ล้านโดส ระบุพบสายพันธุ์เดลต้าพลัส 1 รายในไทย อยู่ในการเฝ้าระวัง ยันไม่ต้องกังวล
25 ต.ค.2564 - เวลา 13.30 น. ที่กระทรวงสาธารณสุขนพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรค และภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉินกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า สถานการณ์ทั่วโลกติดเชื้อใหม่ 3.8 แสนราย สะสม 244 ล้านราย เสียชีวิตใหม่ 4.4 พันราย สะสม 4.9 ล้านราย การรายงานแต่ละวันอาจแกว่งตัว แต่ถ้าดูค่าเฉลี่ย 7 วันจะอยู่ที่ 4 แสนรายต่อวัน ส่วนจำนวนเสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 7 พันราย ประเทศที่ติดเชื้อสะสมสูงสุด เช่น สหรัฐอเมริกา รายใหม่ 1.6 หมื่นราย สะสม 46 ล้านราย เสียชีวิต 138 ราย อินเดีย ติดเชื้อ 1.4 หมื่นราย สะสม 34 ล้านราย เสียชีวิต 444 ราย อย่างไรก็ตาม เมื่อเราดูจากกราฟจะพบว่าตัวเลขติดเชื้อและเสียชีวิตของทั่วโลก มีความเป็นคลื่น ฉะนั้น เราต้องระมัดระวัง หลายประเทศฉีดวัคซีนครอบคลุมกว้าง แต่จำนวนติดเชื้อก็กลับมาสูงได้ วัคซีนที่ฉีดทุกชนิดยังติดเชื้อได้แต่อาการจะไม่รุนแรง ลดความเสี่ยงเสียชีวิตได้มาก ทั้งนี้ ประเทศไทยผ่านจุดการพบผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุดกว่า 2 หมื่นรายมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19ในไทย เราแบ่งพื้นที่จับตาเป็นภาพรวมประเทศพบว่าลดลง สอดคล้องกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล แต่ชายภาคใต้จะต่างออกไป พบการติดเชื้อ 23% ขณะที่จังหวัดอื่นๆ พบติดเชื้อ 60% ยังคงทรงตัวไม่ได้ลดลงอย่างกทม.และปริมณฑลที่เห็นได้ชัดเจน โดยแบ่งจังหวัดจับตาออกมา 6 จาก 10 จังหวัด(Watch list) ได้แก่ นครศรีธรรมราช ตาก ระยอง จันทบุรี และที่มีแนวโน้มเพิ่ม คือ เชียงใหม่ และขอนแก่น ซึ่งเราพบคลัสเตอร์เกี่ยวกับตลาด อย่างแล้ว 6 จังหวัดดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 19% จึงเรียกได้ว่า แนวโน้มภาพรวมลดลง แต่มีบางพื้นที่คงตัว ไม่ลดลงเท่าที่ควร หรือเพิ่มขึ้นอยู่บ้าง เราก็ต้องให้ความสำคัญมุ่งเน้น จับตาโดยละเอียด
นพ.เฉวตสรร ยังกล่าวอีกว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เป็นกลุ่มก้อน ข้อมูลวันที่ 25 ต.ค.64 จะพบกลุ่มเล็กหลายจุด ไม่ใหญ่เหมือนที่พบขณะที่มีการระบาด พบใน 1.บุคลากรการแพทย์ กทม.และปริมณฑล 15 รายต่างจังหวัด 52 ราย เนื่องจากสัมผัสกับผู้ที่มีความเสี่ยง จึงขอให้ประชาชนบอกเจ้าหน้าที่ว่าตัวเองมีความเสี่ยง เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อการดูแลผู้ป่วย 2.เรือนจำ พบที่ตรัง 163 ราย 3.โรงงาน พบที่ประจวบคีรีขันธ์ 31 ราย 4.กลุ่มแรงงาน พบที่แม่ฮ่องสอน 3 ราย แม้ดูไม่เยอะแต่ต้องติดตามว่าจะสะสมมากขึ้นหรือไม่ 5.ชุมชนและตลาด พบที่ลพบุรี 60 ราย เชียงใหม่ 119 ราย เพชรบุรี 10 ราย และ 6.แคมป์ก่อสร้าง พบที่เชียงใหม่ 4 ราย
ส่วนผลการฉีดวัคซีนในวันนี้ฉีดเพิ่มขึ้น 226,178 โดส สะสม 70,505,802 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 39,999,692 ราย คิดเป็น 55.5 ซึ่งผ่านเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าปลายเดือน ต.ค. จะต้องฉีดได้ 50%เข็มสอง 28,372,531 ราย คิดเป็น 39.4% และเข็มสาม 2,133,579 ราย คิดเป็น 3.0% สำหรับพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวเข็มแรกภาพรวมทั้ง 17 จังหวัด ฉีดได้ถึง 76% โดยพื้นที่ที่ฉีดวัคซีนมากที่สุดคือกรุงเทพมหานคร ที่ฉีดเข็มแรกได้จำนวน 107.4% รองลงมาเป็นภูเก็ต 82.7% ส่วนการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนจากข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการ มีการรายงานการฉีดวัคซีนไปถึง 2 ล้านกว่าราย แต่ฐานข้อมูลของเราจะมีอยู่ 1.6 ล้านราย ซึ่งเร่งรัดให้พื้นที่รายงานข้อมูลเข้ามา
นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงกรณีไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ (AY.4.2)ว่า เป็นสายพันธุ์ที่ต่อเนื่องจากสายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) และมีข่าวว่าในช่วง 28 วันที่ผ่านมาจำนวนการติดเชื้อในประเทศอังกฤษเพิ่มสูงขึ้น โดยเป็นรองเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่เดียว และพบเปอร์เซ็นต์ของสายพันธุ์นี้ประมาณ 6% ของจำนวนผู้ติดเชื้อ ซึ่งอยู่ในช่วงการจับตามอง แต่ยังไม่ต้องกังวลว่าจะมีความรุนแรงกว่าปกติหรือดื้อวัคซีนหรือไม่ ซึ่งองค์การอนามัยยังไม่ได้ยกระดับ สำหรับประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวังสายพันธุ์ย่อยต่างๆอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว เมื่อตรวจสอบดูพบการรายงานสายพันธุ์เดลต้าพลัสเพียง 1 ราย โดยไม่มีรายอื่นที่เกี่ยวเนื่อง รายละเอียดจะนำเสนอในการแถลงข่าวในวันต่อๆไป
เมื่อถามถึงกรณีที่มีคลัสเตอร์ติดเชื้อในจังหวัดนครราชสีมา ที่ไปเล่นน้ำท่วมและติดเชื้อเพิ่มถึง 52 ราย และเพิ่มขึ้นอีก 109 ราย มีสาเหตุจากการติดเชื้อโดยไปเล่นน้ำ แหล่งน้ำธรรมชาติ หรือน้ำท่วมพื้นผิวถนนใช่หรือไม่ นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า จุดสำคัญคือการที่อยู่ในระยะใกล้กัน ทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งการพูดที่ทำให้มีการสัมผัสสารคัดหลั่ง น้ำลายจึงเป็นความเสี่ยง เพราะในน้ำที่มีปริมาณมากๆอาจจะไม่ใช่ประเด็นในการนำเชื้อ แต่จุดสำคัญคือการรวมกันที่ทำให้เกิดความเสี่ยงขึ้นมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยติดโควิดใหม่รอบสัปดาห์ 549 ราย ดับเพิ่ม 1 คน
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2567
โควิดกลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’ ขออย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้
เวลาผ่านไปโรคโควิดลดความรุนแรงลง โรคโควิดไม่น่ากลัวหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกลัวโรคโควิดมากเกินไป
สายการบิน 'ลุฟท์ฮันซา' ต้องจ่ายค่าปรับกรณีเลือกปฏิบัติต่อผู้โดยสารชาวยิว
สายการบินลุฟท์ฮันซาต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 4 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา เหตุเพราะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดขอ
ไทยติดโควิดรอบสัปดาห์ 353 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 6 - 12 ตุลาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่